วิธีทำน้ำซอสหอยนางรมคีโตสูตรจีนดั้งเดิม ด้วยตัวเอง

ซอลหอยนางรมที่ขายกันมีแป้งน้ำตาลเยอะบางยี่ห้อมีผงชูรสเยอะอีกด้วย หลายๆ ยี่ห้อใช้กากน้ำตาลด้วยซ้ำเพื่อลดต้นทุน ช่วงเปลี่ยนมากินอาหารสุขภาพแบบโลว์คาร์บและคีโต ซึ่งจะลดแป้งน้ำตาลและเลี่ยงผงชูรส เลยต้องหาทางทำซอสหอยนางรมเอง วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ มาลงมือทำน้ำซอสหอยนางรมคีโตทำเอง จะมีส่วนผสมอะไรบ้างไปเริ่มกันเลยครับ
ส่วนผสม
-หอยนางรมสด 750 กรัม
-น้ำเปล่า 1.5-2 ลิตร
ขั้นตอน
1.เอาหอยนางรมสดล้างน้ำให้สะอาด ล้างหลายๆ รอบ
2.เอามาต้มแบบน้ำไม่เดือด(เกือบเดือดพอ มีฟองฝุดๆ เบาๆ) เพื่อเอารสแล้วกลิ่นออกมาในน้ำให้มากที่สุด ใช้เวลาต้มนาน 30 นาที คนเรื่อยๆ อย่าปล่อยให้น้ำเดือดพล่าน หอยจะแตกได้ น้ำที่ได้จะออกสีฟ้าๆ แบบในรูป
3.นำหอยขึ้นมาจากน้ำ เนื้อหอยสามารถนำไปทำกับข้าวอย่างอื่นได้ (เช่น ใส่ไข่เจียว ทำยำ ใส่ต้มยำ และอื่นๆ อีกมากมาย)
4.นำน้ำหอยนางรมที่ได้ไปกรองผ่านผ้าขาวบางเพื่อเอาเศษเปลือกหอยและเศษสิ่งสกปรกอื่นๆ ออก
5.เคี่ยวน้ำหอยนางรมให้งวดจนเข้มข้น ได้น้ำประมาณ 300ml จะได้ความหอมความนัว มีทริกตรงให้เคี่ยวน้ำหอยนางรมในหม้อสแตนเลสจะมีคราบน้อยและสามารถเอาน้ำที่เคี่ยวขึ้นมาละลายคราบลงไปในหม้อได้ง่าย เพิ่มรสชาติให้หอมขึ้น ใช้ไม้พายคนเรื่อยๆ และขูดก้นหม้อเพื่อไม่ให้น้ำซอสจับตัวที่ก้นหม้อไหม้ได้ ใช้ไฟปานกลาง
6.ช่วงเคี่ยวให้น้ำงวด วักน้ำขึ้นมาเพื่อละลายคราบด้านข้างหม้อให้กลับลงไปในน้ำเรื่อยๆ ตรงนี้ของอร่อยเลย แต่ต้องเบาไฟให้ขอบหม้อร้อนไม่มากก่อน ไม่งั้นน้ำจะเดือดกระจายเลย
7.สุดท้ายเมื่อเข้มข้นได้ที่ ก็ปรุงรสด้วยซีอิ๊วที่มีน้ำตาลน้อยๆ ให้ออกเค็มนิดหนึ่ง ถ้าไม่ได้ทานโลว์คาร์บหรือคีโตใส่น้ำตาลลงไปเพื่อตัดรสได้
8.ก็จะได้ซอสหอยนางรมไว้ใช้ เป็นซอลที่เข้มข้นมากๆ ใช้นิดเดียวก็อร่อยแล้ว ไม่ต้องใช้เยอะๆ เหมือนกับที่ซื้อตามซุปเปอร์ ใช้หมักเนื้อ ใช้ผัดกับข้าวอร่อยมากๆ ครับ
9.จะกรอกใส่ขวดให้ฆ่าเชื้อขวดที่จะใส่ด้วย กรอกแล้วเก็บไว้ในตู้เย็น ผมเคยเก็บไว้เป็นเดือนเลยครับ แต่ใช้หมดก่อนเลยไม่รู้ว่าเก็บต่อไปได้อีกกี่วัน แต่น่าจะได้ไปอีกเพราะต้มนาน ตอนใช้อย่าให้เปื้อนกับของอื่นๆ
สูตรนี้เป็นสูตรจีนดั้งเดิมในการทำซอสหอยนางรม ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการทำหอยนางรมตากแห้ง ได้น้ำต้มหอยมาเคี่ยวให้เข้มข้นจนกลายมาเป็นน้ำซอลหอยนางรมที่มีความนัว ใช้หมักเนื้อสัตว์ ใช้ผัดกับข้าว ใช้อะไรก็อร่อย
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.in.th ขอขอบคุณที่มา : cookpad