ผลวิจัยชี้การดื่ม ไวน์แดง วันละแก้วทำให้สุขภาพดี
แม้ว่า “ไวน์” จะเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่หากว่าดื่มอย่างถูกต้อง ปริมาณที่เหมาะสมก็จะเกิดคุณประโยชน์ต่อสุขภาพได้ ไวน์ช่วยปกป้องโรคภัยได้หลายชนิด เนื่องจากอุดมไปด้วยสารเรสเวอราทรอล(Resveratrol) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ วันนี้ kaijeaw.in.th จึงมีประโยชน์จากการดื่มไวน์แดงมาบอกกันค่ะ ห้ามพลาดนะ
ด้วยผลจากการวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารของฟินแลนด์ เมื่อปี 2007 ระบุว่า การดื่มไวน์วันละแก้วจะทำให้ร่างกายได้รับสารเรสเวอราทรอล ช่วยชะลอวัย ห่างไกลความแก่อย่างเห็นผลชัดเจน ชาวยุโรปทราบความลับข้อนี้ดี จึงนิยมดื่มไวน์วันละแก้วเป็นประจำ นอกจากนี้ ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด, มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และมหาวิทยาลัยวียู อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ยังพบว่า การดื่มไวน์จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ โดยสารเรสเวอราทรอลสามารถเปลี่ยนแปลงระดับไขมันคอเลสเทอรอลในเลือด โดยเพิ่มระดับของ HDL หรือคอเลสเทอรอลแบบดีให้สูงขึ้น เป็นการป้องกันไม่ให้เลือดเกาะกันเป็นก้อน การดื่มไวน์เพียงวันละหนึ่งแก้วจึงช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดโรคหัวใจ และช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อม แถมยังป้องกันโรคเบาหวานด้วย
ประโยชน์ของการดื่มไวน์แดง
1. ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
พบการศึกษาจำนวนมากแสดงให้เห็นว่า ไวน์แดงมีสาร Resveratrol (ที่พบในผิวหนังและเมล็ดองุ่น) ที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงระดับไขมันคอเลสเตอรอลในเลือด โดยการไปเพิ่ม HDL ("ดี" คอเลสเตอรอล) และเป็นการป้องกันไม่ให้เลือดเกาะกันเป็นก้อน เพราะฉะนั้นการดื่มไวน์แดง1- 2 แก้ว จะช่วยทำให้ลดความเสี่ยงที่เกิดโรคหัวใจได้ถึง 30-40 %
2. ป้องกันมะเร็ง ลดสาร Reservatrol
เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งซึ่งพบได้ในองุ่น ผลราสเบอร์รี ถั่วลิสง และพืชอื่นๆ มีหลักฐานว่า เรสเวราทรอลลดอนุมูลอิสระและลดอัตราการเกิดมะเร็งในสัตว์ทดลอง รวมทั้งลดการเจริญเติบโตของมะเร็งในถาดเพาะเชื้อได้ นอกจากนั้นยังลดสารเอ็นเอฟ แคปปา บี (NF kappa B) ซึ่งเป็นโปรตีนซึ่งสร้างโดยระบบภูมิคุ้มกันที่ถูกกระตุ้นอีกด้วย
3. ช่วยชะลอวัยให้ดูอ่อนเยาว์
ดื่มไวน์แดงเป็นประจำช่วยให้ดูอ่อนกว่าวัย เพราะสารต้านอนุมูลอิสระในไวน์แดงช่วยป้องกันร่างกายจากความเสียหายจากอนุมูลอิสระอและจะชะลอกระบวนการชรา ไวน์แดงมีความเข้มข้นของสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่าโพลีมากกว่า เมื่อเทียบกับน้ำองุ่น งานวิจัยตีพิมพ์ในวารสารของห้องสมุดวิทยาศาสตร์ One (PLoS One) แสดงให้เห็นว่าการดื่มไวน์แดงอาจมีประโยชน์ได้มากมาย เช่น การชะลอความแก่ชรา ช่วยปรับปรุงสุขภาพหัวใจ
4. ป้องกันไข้หวัด
ผลการศึกษาจากอาสาสมัคร 4,000 คน เป็นเวลา 1 ปี โดยผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัย 5 แห่ง พบว่าผู้ดื่มไวน์มากกว่าวันละ 2 แก้ว จะเป็นหวัดน้อยกว่าผู้ไม่ดื่มไวน์ ถึง 44% ส่วนการดื่มไวน์แดงวันละ 1 แก้ว จะช่วยป้องกันหวัดได้เหมือนกัน
5. ลดความเครียด
ไวน์แดงถือได้ว่าเป็นยากล่อมประสาทชนิดหนึ่ง และสามารถช่วยผู้ที่มีความผิดปกติทางประสาทหรือผู้ที่ประสบความวิตกกังวลต่างๆ และลดความเครียด นอกจากนี้ยังสามารถช่วยในการนอนหลับที่ดีขึ้นได้อีกด้วย
6. ป้องกันโรคความจำเสื่อม
นักวิจัยพบว่าไวน์แดงช่วยลดความจำเสื่อม บำรุงสมองส่วนความจำได้ โดยสาร resveratrol ในไวน์แดง มีผลในการป้องกันการเสื่อมของสมองในหนูทดลอง แต่ไม่ได้ทำการทดสอบในมนุษย์
7. ช่วยย่อย
ในอาหารประเภททอด อาหารแปรรูป จะมีสาร malonaldehydes ซึ่งสารเหล่านี้อาจทำให้เกิดปัญหาทางเดินอาหาร และเพิ่มความเป็นพิษของร่างกาย มีการศึกษาพบว่าการดื่มไวน์แดงกับอาหารดังกล่าว ช่วยลบล้างสารเหล่านี้ในอาหารได้ถึงร้อยละ 60-70 ดังนั้นความสามารถในการช่วยการทำลาย สารเหล่านี้ก็เป็นประโยชน์ในการย่อยอาหาร
8. ดูแลสุขภาพเหงือกและฟัน
ไวน์แดงมีคุณสมบัติต่อต้านแบคทีเรียในช่องปาก และนอกจากนี้งานวิจัย แสดงให้เห็นว่า สารโพลีฟีน เป็นสารธรรมชาติที่พบในเมล็ดองุ่นและไวน์แดง จะมีคุณสมบัติช่วยในการต้านการอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียของเหงือก หรือบอกได้ว่าจะป้องกันเหงือกอักเสบได้นั่นเอง
9. อาหารบำรุงผิว
ด้วยคุณประโยชน์จากสารสกัดในองุ่นแดง ที่โดดเด่นในการป้องกัน และรักษาอาการบวมน้ำในร่างกาย ทั้งยังช่วยเพิ่มความกระชับแก่ผิว โดยยับยั้งการทำลายอีลาสตินใต้ผิวได้ถึง 90% เนื้อผิวกลับมีความกระชับ การไหลเวียนใต้ชั้นผิวดีขึ้น
10. ช่วยลดความอ้วนได้
เพราะ ไวน์นั้นมีประโยชน์อื่นๆ มีมากมาย อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลและความดันเลือด และการดื่มไวน์ช่วยกระตุ้นร่างกายให้เผาผลาญแคลอรี่ มีการศึกษาสนับสนุน โดยนักวิจัยเก็บตัวอย่างผู้หญิงที่มีน้ำหนักปกติกลุ่มหนึ่ง เป็นเวลา 13 ปี จะเห็นได้ว่า ผู้หญิงที่ดื่มไวน์แดง แก้วถึงสองแก้วต่อวันนั้น มีถึง 30% ที่มีแนวโน้มที่จะมีน้ำหนักน้อยกว่า ผู้หญิงที่ไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (พวกเขาติดตามผู้หญิงที่ดื่มสุราและเบียร์เช่นกัน แต่ไวน์เห็นผลลัพธ์ชัดเจนมากที่สุด)
ไวน์แดงกับไวน์ขาว
สารโพลีฟีนอลและรวมทั้งเรสเวอราทรอล เป็นองค์ประกอบทางเคมีที่พบมากในเปลือกองุ่น ในระหว่างกระบวนการผลิตไวน์ ยิ่งเปลือกองุ่นอยู่กับตัวองุ่นนานเพียงใด ความเข้มข้นของเรสเวอราทรอลในไวน์ก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ในกรณีของการผลิตไวน์ขาว เปลือกถูกกำจัดออกก่อนการหมัก ทำให้ไวน์ขาวมีความเข้มข้นของเรสเวอราทรอลต่ำกว่าเมื่อเทียบกับไวน์แดง ดังนั้น ดีทั้งคู่แต่ไวน์แดงอาจพูดได้ว่าดีกว่าเล็กน้อย
ปริมาณที่ควรดื่ม
ควรดื่มไวน์แดงแต่พอเหมาะ ประมาณ 1-2 แก้วเพื่อให้ได้รับประโยชน์จากไวน์ 1 แก้ว มีประมาณ 120 มล.ม(4 ออนซ์) สำหรับไวน์ที่มีแอลกอฮอล์ราวร้อยละ 12 แต่ดื่มได้มากกว่านี้หากเป็นไวน์ไม่มีแอลกอฮอล์ สมาคมหัวใจอเมริกันยังเตือนผู้คนไม่ให้ดื่มไวน์ที่มีแอลกอฮอล์ หากพวกเขายังไม่เคยดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์มาก่อน
เราได้ทราบประโยชน์ของไวน์แดงเช่นนี้แล้ว ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เราจะเลือกดื่มรับประทานเพื่อส่งเสริมให้มีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น แต่ก็เช่นเดียวกับอาหารอื่นๆ นะคะ ที่มีทั้งคุณประโยชน์และโทษ ทางที่ดีคือเดินทางสายกลาง ดื่มได้ในปริมาณที่พอเหมาะ 1-2 แก้ว ควบคู่กับอาหารเพื่อสุขภาพครบทั้ง 5 หมู่ ก็จะช่วยให้สุขภาพดีได้ค่ะ
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.in.th