เตือนภัย สินสอด 1 ล้านบาทหาย ช่างภาพกลายเป็นผู้ต้องสงสัยแบบงงๆ
เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องระมัดระวังกันอยู่พอสมควร กับการจัดงานแต่งงาน โดยเฉพาะงานไหนที่มีข่าวแพร่สะพัดว่ามีสินสอดมูลค่าสูง มักจะเสี่ยงต่อการโดนโจรกรรม เพราะในวันพิธี ผู้คนมากมายที่ต้องมาร่วมงาน อาจจะมีคนไม่หวังดีแฝงมาก็ได้
อย่างเช่นกรณีนี้ ต้องเอามาเป็นเรื่องเตือนภัย ช่างภาพ ออร์แกไนซ์ ผู้รับงานทั้งหลายเลยล่ะค่ะ เมื่อจู่ๆสินสอด 1 ล้านบาท กลับหายไปจากบ้านเจ้าสาว และเจ้าภาพต่างชี้เป้ามาที่ช่างภาพ จนช่างภาพต้องกลายเป็นผู้ต้องสงสัยอย่างงงๆ โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Tana Nop ได้เผยภาพ พร้อมระบุว่า...
"เตือนภัย ฝากถึงช่างภาพ และออร์แกไนซ์ ผู้จัดงานร่วมอาชีพทุกๆท่านด้วยครับ
2-3 วันที่ผ่านมา ผมได้ไปถ่ายงานแต่งงาน ขอไม่บอกสถานที่ ไปเป็น 1 ในทีมงานออร์แกไน์ ผมมีหน้าที่เก็บภาพในงานกับน้องอีกคนนึงเป็นช่างภาพแคนดิต ทุกอย่างปกติ และผิดปกติ แต่ไม่ได้สนใจ เสร็จงานผมก็เก็บอุปกรณ์กลับบ้าน .. จนออร์แกไนซ์โทรมาบอกว่าสินสอด 1 ล้านหาย แล้วพวกเราโดนเพ่งเล็ง พวกเราต้องไปให้ปากคำ โดยเฉพาะพี่ (ตัวผมเอง)
เจ้าภาพให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า .. ช่วงเวลาเลิก จบงาน มีแต่ช่างภาพกับออร์แกไนซ์ที่อยู่บนบ้าน เค้าเก็บเงินไว้ในห้องนอน ล็อคห้องแล้วแต่ลูกบิดไม่ค่อยดี (พวกผมเก็บอุปกรณ์กันอยู่บนบ้าน) ซึ่งนอกจากทีมงานผม ก็เห็นคนขึ้นลงบ้านอยู่เรื่อยๆนะครับ ไม่ได้มีแค่ทีมงาน 3 คน
พวกเราทีมงาน ได้รีบกลับไปที่บ้านจัดงาน สถานที่เกิดเหตุ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ความร่วมมืออย่างดี แต่ทางแม่เจ้าสาวได้เดินมาพูดแกมต่อว่าเสียงดังพร้อมหน้าตาสุดเหวี่ยง เพราะปักใจว่าพวกเราเอาไปแน่ๆ (ยังไม่ทันมีหลักฐานที่แน่นอน) ในบริเวณมีคนหลายคนที่นั่งอยู่ สร้างความอับอาย ให้ผมและทีมงานมากครับ แต่พวกเรานิ่งเฉย
ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนเก็บหลักฐาน และพิสูจน์ หาข้อมูล ผมยังขอไม่พูดลงรายละเอียด แต่เพราะช่วงเวลา และสถานที่ มันชี้มาที่พวกเรา ทำให้เราต้องตกเป็นผู้ต้องสงสัย
แค่อยากมาเตือนเพื่อนๆช่างภาพ และออร์แกไนซ์ให้ทำงานกันอย่างระมัดระวังที่สุด เดินเข้า ออกบ้านเค้า อย่าไปคนเดียวควรมีบุคคลรู้เห็น และบันทึกทามไลน์ของตนเองให้ได้มากที่สุดครับ
ป.ล ทุกวันนี้ผมและทีมงานให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ และให้ความร่วมมืออย่างดีครับ แล้วงานนี้อาจมีคดีพลิก เพราะพวกเราไม่มีเหตุจูงใจใดๆเลยที่จะต้องลักขโมยเงินสินสอดจำนวนนี้ #รับการขอโทษเป็นเงินสดเท่านั้น #ขอให้ความจริงปรากฏโดยเร็ว"
ความคิดเห็นจากชาวเน็ต
ไม่ต้องตกใจนะคะ ความจริงจะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นหากต้องมีการดำเนินคดีฟ้องร้องกันจริงสามารถผลักภาระการพิสูจน์ให้ได้ว่าเราไม่ใช่ผู้กระทำความผิดค่ะ ระหว่างนี้ให้เก็บพยานหลักฐานทุกอย่างไว้พร้อมเตรียมที่จะต่อสู้คดีในชั้นศาลดีที่สุดค่ะ หากไม่ผิดศาลพิพากษายกฟ้อง สามารถดำเนินคดีกลับได้ทันทีค่ะ
แบบนี้ก็มีด้วย
กรณีนี้เป็นอุทาหรณ์ได้เป็นอย่างดีเลยล่ะค่ะ ว่าการทำงานเราต้องระมัดระวัง และไม่เฉียดใกล้ของมีค่าเด็ดขาด เพราะกรณีเช่นนี้จะเกิดขึ้นตอนไหนไม่มีใครรู้ได้เลย
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.in.th ขอขอบคุณข้อมูลจาก Tana Nop