ทำไมเวลาจะบวชนาคต้องใส่ทองห้อยคอ ก่อนเข้าโบสถ์
งานบวช เป็นประเพณีไทยสืบเนื่องมาแต่โบราณกาล ชายไทยเมื่ออายุครบบวช จะต้องบวชให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต เพื่อการศึกษาพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาสร้างกุศลอันยิ่งใหญ่ให้ตนเองและบิดามารดารวมทั้งหมู่ญาติการมีโอกาสได้เป็นนักบวช ดำรงเพศสมณะผู้ตั้งใจฝึกฝนอบรมตนเองเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ
แต่ที่เป็นประเด็ดค้างคาใจในโลกโซเชียลคืองานบวชเวลาแห่นาคทั้งเจ้าภาพและแขกทำไมต้องใส่ทองเส้นใหญ่โตจำกลายเป็นวัฒนธรรมสมัยใหม่ไปแล้วก็ว่าได้แท้จริงแล้วมันมีในพระธรรมวินัยหรือไม่ หรือเป็นแค่การบ่งบอกถึงฐานะกันแน่
ล่าสุดมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า.."ทำไมเวลาจะบวชนาคต้องใส่ทองครับ" ทำชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก
ความคิดเห็นชาวเน็ต
ไม่กลัวโจรมาขโมยหรอครับ
ขั้นตอนงานบวช
1.ให้ญาติผู้ใหญ่ตัดผมนาค แล้วนำเศษผมที่ตักใส่ภาชนะที่มีใบบอนรองไว้
2.พระพี่เลี้ยงโกนผมนาค ให้หมดจรด
3.กราบมารดา-บิดา ท่านละ 1 ครั้ง (ไม่แบมือ) แล้วรับมอบผ้าไตรจากมารดาบิดาญาติผู้ใหญ่
4.แห่นาครอบอุโบสถ
5.โปรยทาน บริเวณหน้า อุโบสถ
6.คุณพ่อคุณแม่ส่งนาคเข้าพระอุโบสถ
7.นาคส่งผ้าไตรให้เจ้าหน้าที่แล้วนำดอกไม้ บูชาที่หน้าพระประธาน
8.รอพระอุปัชฌาย์โดยอาการสงบ
9.กราบพระอุปัชฌาย์แล้ว หยิบผ้าไตรวางบนแขน เปล่งวาจาขออุปสมบท เอสาหัง พร้อมกัน
10.กล่าวจบแล้ววางผ้าไตรลงและฟังพระอุปัชฌาย์สอนกัมมัฏฐานแล้วกล่าว เกสา โลมาฯ
11.พระอุปัชฌาย์สวมผ้าอังสะให้นาค
12.ออกไปครองผ้าไตรจีวร ด้านหลังพระอุโบสถ (ญาติไปเก็บชุดนาคที่ด้านหลังพระอุโบสถด้วย)
13.เปล่งวาจาขอสรณะและศีล ๑๐ จากพระอาจารย์
14.เมื่อรับศีลเสร็จแล้วไปที่ศาลาแดง เพื่อรับประเคนบาตรจากบิดามารดา
15.คลานเข่าเข้าไปหาพระอุปัชฌาย์ ถวายดอกไม้ธูปเทียนแล้วกล่าวคำขอนิสัย
16.พระกรรมวาจารย์คล้องบาตร
17.พระคู่สวดสอบถามอันตรายิกธรรม (คุณสมบัติ)
18.คลานเข่าเข้ามาท่ามกลางสงฆ์, กราบสงฆ์
19.เปล่งวาจาขอญัตติกรรม สังฆัม ภันเต
20.ฟังอนุสาสน์บาลีจากพระอุปัชฌาย์
21.ถวายเครื่องไทยธรรม กรวดน้ำ เป็นเสร็จพิธี
อย่างไรก็ตาม วิธีการที่กล่าวมาทั้งหมดก็ไม่เห็นจะมีในพิธีเลย คาดว่าจะเป็นค่านิยมสมัยใหม่ เหมือนกับการผูกข้อมือรับขวัญบางคนก็เอาเงินมาใส่เวลาผูก พอเสร็จก็รับคืน เปรียบกับบวชนาค พอจะเข้าโบสถ์ ก็มาปลดสร้อยคอออกคืน แต่ก็มีความเสี่ยงเพราะล่อตาล่อใจขโมยอยู่เหมือนกัน
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.in.th