หนุ่มศรีสะเกษตกงาน ขอหยุดรับเงินบริจาค บอกพอตั้งตัวได้แล้ว
หนุ่มศรีสะเกษตกงานช่วงโรคระบาด ซึ้งน้ำใจคนไทย ให้การช่วยล้นหลามยอดบริจาคร่วม 9 หมื่น หลังตกงานเหลือเงินติดตัว 5 บาท ยังไม่กล้านำมาใช้ส่วนตัวประกาศขอหยุดรับการช่วยเหลือหวั่นกระแสดราม่า ล่าสุดได้งานทำเป็นหลักแหล่งแล้ว
เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2563 ตามที่ผู้สื่อข่าวได้นำเสนอเรื่องราวของนาย ศราวุธ วงค์ที หรือ “ต้น” อายุ 22 ปี หนุ่มชาวศรีสะเกษ ที่ตกงานจากพิษโรคระบาด ในขณะเดินหางานมาตามถนนจนถึงย่านพัทยากลางด้วยท่าทางอ่อนเพลีย หิวโซ พร้อมตรงรี่มาขอให้ซื้อข้าวให้กินประทังความหิว โดยไม่มีเงินติดตัวเพียง 5 บาท จนเป็นกระแสในโลกโซเชี่ยล พร้อมส่งกำลังทรัพย์และกำลังใจให้การช่วยเหลืออย่างล้นหลาม
ล่าสุด นายศราวุธ เดินทางมาพบทีมข่าวที่บริษัทโสภณ เคเบิล ทีวี พัทยา พร้อมยกมือไหว้กล่าวขอบคุณที่นำเสนอข่าว จนได้รับความช่วยเหลือ มีผู้ใจบุญหลายคนชวนไปทำงานด้วยในหลายอาชีพ
พร้อมโอนเงินผ่านเข้าบัญชีธนาคารยอดล่าสุด 89,281 บาท ตนต้องโพสต์หยุดรับบริจาค เพราะยอดเงินค่อนข้างเยอะไปสำหรับตน แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ไม่อยากได้มากไปกว่านี้ และเกรงว่าจะมีดราม่าในโลกโซเชี่ยล แต่ก็ยังมีคนใจดีโอนให้มาเรื่อย ๆ ตอนนี้มีคนที่ตกทุกข์ได้ยากกว่าอีกมากอย่างมูลนิธิ โรงพยาบาลต่าง ๆ ที่ขาดแคลน อยากให้ไปช่วยเหลือตรงนั้นมากกว่า ส่วนเงินที่ได้มายังไม่กล้านำออกมาใช้ ยังอาศัยนอนอยู่ในบาร์ร้างกับเพื่อน ๆ
นายศราวุธ กล่าวอีกว่า สำหรับเงินที่ได้รับบริจาคมา จะนำไปหาบ้านเช่าราคาถูกอยู่อาศัย ส่วนหนึ่งจะส่งให้ลูกเมียที่บ้าน และจะเก็บไว้ใช้ส่วนตัวเล็กน้อย ส่วนที่เหลือ จะนำไปแบ่งปันเพื่อน ๆ ที่ตกงาน และฝากไว้ที่ร้านขายอาหารตามสั่งทุกอย่าง 20 บาท ภายในซอยบริษัทโสภณ เคเบิล ทีวีพัทยา จำนวน 10,000 บาท สำหรับผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์สามารถไปสั่งกินได้ทันที และมอบให้ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์และเด็กถูกล่วงละเมิด(ศตคด.) มูลนิธิพัฒนาการคุ้มครองเด็ก “บ้านครูจา” จำนวน 9,000 บาท และจากนี้ไปจะไปใช้ชีวิตเป็นหนุ่มโรงงานแถวจังหวัดระยอง โดยมีบริษัท ไทยอินเตอร์ เนชั่นแนล เลเบอร์ มารับอุปการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (สัมภาษณ์ :- ศุธารทิพย์ ผู้จัดการ บริษัท ไทยอินเตอร์ เนชั่นแนล เลเบอร์) 7123
นายศราวุธ กล่าวทิ้งท้ายให้กำลังใจผู้ที่กำลังประสบภาวะยกจนข้นแค้นในขณะนี้ว่า เกิดเป็นคนอย่าอาย ยังมีน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ คอยหยิบยื่นให้ความช่วยเหลือ ดีกว่าคิดสั้นไปลักเล็กขโมยน้อย เลือกเส้นทางมิจฉาชีพ เพราะชีวิตจะปิดลงที่ “คุก” ขอให้ทุกคนสู้อย่าท้อถอย
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.in.th ขอขอบคุณที่มา : เรารักพัทยา