เล่าประสบการณ์ ในการเก็บเงินได้สิบกว่าล้าน ก่อนอายุ40ปี
หนุ่มใหญ่แบ่งปันประสบการณ์ในการเก็บเงินได้สิบกว่าล้าน ก่อนอายุ 40 โดยขายข้าวแกงกับป้าในตึกแถว2คูหา ไม่ใช่มนุษย์เงินเดือน3-4แสน ไม่ได้มีธุรกิจใหญ่โต และเงินทั้งหมดที่มี ไม่ได้มาจากมรดกแม้แต่บาทเดียว
โดยโพสต์กระทู้ข้อความเล่าว่า.. สืบเนื่องจากกระทู้นี้ https://pantip.com/topic/39918765 ทุกท่านที่อ่านคงรู้แล้วว่าชีวิตผมไม่สมดุลและไร้ซึ่งความสุข แต่ก็มีสมาชิกหลายคนได้ถามผมว่า ทำอย่างไรจึงจะมีเงินเก็บหลักสิบล้านก่อนอายุ40 เหมือนที่ผมทำ
ผมเลยคิดว่า อาจมีประโยชน์อยู่บ้าง ถ้าผมจะเล่าเรื่องของผม แต่มันคงไม่ได้สร้างแรงบันดาลใจให้ใคร มิหนำซ้ำมันอาจทำให้คนอ่านไม่อยากมีเงินสิบล้านก็ได้
คุณคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า คนทุกคนอยากขึ้นสวรรค์ แต่ไม่มีใครอยากต..ย เหมือนกัน ทุกคนอยากมีเงิน10ล้าน แต่เป็นอารมณ์ที่แบบลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วมีเงินเลย ไม่ใช่อยากผ่านความยากลำบากต่างๆนาๆ จนกว่าจะได้มันมา
ผมเป็นคนปกติธรรมดา ไม่ใช่มนุษย์เงินเดือน3-4แสน ไม่ได้มีธุรกิจใหญ่โต และเงินทั้งหมดที่มี ไม่ได้มาจากมรดกแม้แต่บาทเดียว
ผมขายข้าวแกงกับป้าในตึกแถว2คูหา ทำงานทุกวัน ไม่มีวันหยุด 365วัน เปิดทุกวัน อาจมีป่วยบ้าง แต่ไม่เกิน5วันต่อปี
ในขณะที่คนทั่วไป ทำงานแค่จันทร์-ศุกร์ หยุดเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ใน1ปี มีวันหยุดรวม 130วันต่อปี 18ปีที่ผ่านมา ผมทำงานมากกว่าคนอื่นที่อายุเท่ากัน ถึง2340วัน หรือคิดเป็น 6ปีกว่าๆ ในขณะที่คนอื่น นอนตื่นสายในวันเสาร์. อาทิตย์ และออกไปเดินห้างตอนบ่ายๆ ส่วนผมยังคงทำงานตั้งแต่เช้าถึงค่ำ ถ้าผมกำไรวันละ2,000บาท เท่ากับว่าในขณะที่คนอื่นไม่ต้องทำงาน ผมทำเงินไปเกือบ5ล้านบาท ตลอด18ปีที่ผ่านมา
ผมไม่มีเวลากินข้าวแบบคนทั่วไป ต้องทำงานไปกินไป บางทีได้กินข้าวเช้าตอนเที่ยง ผมเหนื่อยและท้อ เกินกว่า20ครั้ง หลายครั้งร้องไห้ในส้วมว่าทำไมชีวิตกรูถึงลำบากขนาดนี้ บางทีปวดขี้ยังต้องอั้นขี้ไว้ จ้างคนงานเยอะกว่านี้ไม่ได้ ไม่คุ้มกับกำไร
คนที่ไม่ใช่อาชีพค้าขาย ก็มักจะบอกว่าทำไมไม่หยุดเสาร์ อาทิตย์ แต่คนที่ค้าขายแทบทุกคน ล้วนต้องทำงานทุกวัน เหตุผลก็ไม่ทราบเหมือนกัน คงเป็นคำสาปของคนทำอาชีพนี้ ที่มันเป็นแบบนี้มาตลอด
ทุกอย่างมีราคาที่ต้องจ่าย การเดินมาถึงจุดนี้ของผม ผมแลกมาด้วยวันหยุด2340วัน แลกมาด้วยความลำบาก ความสุข และสมดุลของชีวิต ผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทั้งหมดที่ทำไมถูกหรือผิด เส้นทางที่เลือกเดินมานี้ มันผิดพลาดรึป่าว เวลาดูยอดเงินในสมุดเงินฝาก เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ถามว่ามีความสุขไหม ตอบไม่ถูกเหมือนกันครับ เพราะเรารู้อยู่แก่ใจว่าเราได้เสียอะไรไปมากมายจริงๆเพื่อแลกมันมา
รวยเร็วเป็นไปได้ แต่รวยง่ายๆ ไม่มี ประโยคนี้เป็นความจริงครับ ผมไม่ใช่คนเก่งแบบที่เห็นกันในทีวี ทำธุรกิจ2-3ปี มีเงิน100ล้าน ผมทำงานตั้งแต่อายุ22 ตอนนี้เกือบ40 ทำงาน17-18ปี วันนี้ก็ไม่รู้เรียกตัวเองว่ารวยได้รึยัง แต่ก็ใช้เวลาไม่น้อย
ใครที่อ่านถึงตรงนี้ แล้วอายุพอๆกับผม แล้วยังมีเงินไม่ถึง10ล้าน ไม่ต้องเสียใจครับ คุณอาจจะมีความสุขมากกว่าผม มีสมดุลชีวิตที่กว่า ได้กินข้าวตรงเวลา ได้มีเวลาว่าง ได้เดินห้างในวันหยุด ได้นอนตื่นสาย ปวดขี้ตอนไหนก็ขี้ได้ ได้พักผ่อนมาแล้ว2340วัน ในขณะที่ผมไม่มีสักอย่างที่กล่าวมา
และใครที่อ่านมาถึงตรงนี้ แล้วคิดว่าคุณยอมแลกเวลาในชีวิตคุณ ยอมสละความสุข เพื่อเป้าหมายคือเงิน แล้วอยากหาอะไรทำเพิ่มเติมในวันหยุด
ผมไม่รู้ว่าจะแนะนำให้คุณขายอะไรนะ แต่แนะนำได้ว่าอะไรที่คุณไม่ควรทำเด็ดขาด สิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาดคือ ธุรกิจซื้อมาขายไป
ป้าผมเปิดร้านขายของโชว์ห่วยมาก่อนจะมาขายข้าวแกง ทำมา20ปี ไม่มีเงินเก็บเลย เพราะ ธุรกิจซื้อมาขายไป คือธุรกิจที่แย่ที่สุด ไม่มีใครทำแล้วรวย คนรวยมีอยู่คนเดียวคือ เจ้าของบริษัทที่ผลิตสินค้า เพราะทุกคนที่เปิดร้านจะสั่งของมาขายแล้วตัดราคากัน จนเจ๊งกันหมด มีแต่บริษัทที่ผลิตเท่านั้นที่รวย
และธุรกิจซื้อมาขายไป คุณขายแพงไม่ได้ แค่แพงกว่าร้านข้างๆ5บาท ก็ขายไม่ได้แล้ว มันจึงได้กำไรน้อยมาก ไม่คุ้มเหนื่อย
หรือการสั่งของจากจีนมาขาย อันนี้ไม่ควรทำ เพราะทุกคนก็คิดและทำแบบที่คุณทำ สุดท้ายตายหมด เพราะตัดราคากัน อย่างเคสมือถือ เสื้อผ้า อะไรที่มาจากจีน ไม่ต้องคิดเอามาขายครับ คนที่รวยคือโรงงานจีน เพราะผลิตออกมาให้พวกคุณซื้อมาขายตัดราคากัน
ผมไม่ได้แนะนำให้คุณไปเปิดโรงงานผลิตสินค้านะครับ แค่จะบอกว่าให้คุณขายของที่คุณทำมันขึ้นมาเอง เช่น อาหาร ขนม เหมือนที่ผมขายข้าวแกง
ถ้าลูกค้าชอบรสชาติของเรา ต่อให้ร้านข้างๆขายถูกกว่า5บาท เขาก็ยังมาซื้อเรา
การขายของกินกำไรดีมากครับ ลงทุน1,000บาท กำไร1,000-2,000บาท คิดเป็น 100-200%
เมื่อก่อนป้าขายของโชว์ห่วย กำไรต่อชิ้น 3-5% อย่างหรูไม่เกิน 10% ขายแพงกว่านี้ก็ไม่ได้ เพราะร้านอื่นเขาขายกันเท่านี้
เรียกว่าลงทุนสั่งของมา 1,000บาท กำไร 50-100บาท แต่ขายของกิน ลงทุน1,000บาท กำไร 1,000-2,000บาท ต่างกัน10-20เท่า
และเราทำขนมขายด้วย พวกขนมชิ้นเล็กๆ เช่นคุกกี้ ขนมปัง พวกนี้กำไรดีกว่าข้าวแกง แต่ขายออกช้ากว่า แต่เก็บได้3วัน ไม่เน่าเร็วเหมือนอาหาร
ถ้าใครเคยทำธุรกิจซื้อมาขายไป จะเข้าใจที่ผมพูด มันไม่มีอะไรที่คุณสามารถขายกำไรได้2เท่า ถ้าทุนไม่เยอะ ทำขนมจะดีสุดครับ เพราะพวกแป้ง เนย มันไม่เน่า ไม่เหมือนหมูและผัก และทำแล้วเก็บได้หลายวัน กำไรราวๆ300% เช่น ลงทุน1,000 จะขายได้ราวๆ3-4พันบาท
คุณอาจจะแปลกใจถ้าผมจะบอกว่า ร้านอาหารส่วนมาก ที่ไม่เจ๊งนะ รวยทุกคน ของผมเป็นร้านข้าวแกง ยังถือว่าสเกลเล็กกว่าร้านอาหารใหญ่ๆทั่วไป
ร้านอาหารที่เปิดมานานแบบป้าผม รวยกว่าผมเยอะครับ พวกเขามีตึกแถวหลายห้อง ห้องละหลายล้าน มีที่ดิน และหลายๆร้านขับรถเบนซ์ คุณลองไปดูเจ้าของร้านอาหารในจังหวัดของคุณที่เปิดมาเกิน10ปี ไปดูว่าเขารวยแบบที่ผมพูดไหม ทุกคนมีบ้านหรู มีรถหรู มีตึกแถว มีที่ดิน และเขาก็เปิดขายทุกวันแบบผม ไม่มีหยุด ทุกสิ่งที่เขามีในวันนี้ ล้วนแลกมาด้วยทุกอย่างแบบที่ผมเล่าไปทั้งนั้น
หวังว่าหลายคนต้องเอาเป็นแบบอย่าง ไม่ใช่คนเก่งอัจฉริยะเหมือนในทีวี แต่เอาความขยันเข้าแลกต้องใช้ความอดทน ทุ่มเททุ่มเข้าไปความสำเร็จก็เลยกลับมาสู่ตัวเราเองเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังคิดจะเริ่มเก็บเงินล้านครับสู้ๆ
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.in.th ขอขอบคุณที่มา : สมาชิกหมายเลข 4717480