ไอเดียเลี้ยงกุ้งแม่น้ำในขวดพลาสติก ต้นทุนน้อย ใช้พื้นที่ไม่มาก
เชื่อว่าหลายคนคิดว่ากุ้งแม่น้ำต้องอยู่ในแม่น้ำแล้วไปจับมาขาย จริงๆแล้วกุ้งแม่น้ำ การเลี้ยงในท่อซีเมนต์ที่เราเคยเห็นอยู่บ่อยๆสำหรับคนที่มีพื้นที่ไม่มาก แต่เดี๋ยวก่อนยังมีวิธีเลี้ยงกุ้งที่ประหยัดงบ เลี้ยงง่าย แถมเหมาะกับคนเมืองที่มีพื้นที่จำกัดเพียงน้อยนิดอีกด้วย
ปัจจุบันกุ้งแม่น้ำเป็นกุ้งที่มีความต้องการของตลาดสูงมาก เพราะคนนิยมกินกันมากขึ้น ทำให้ตลาดมีความต้องการสูง จนทำให้ราคาค่อยๆขยับขึ้นมาเรื่อยๆ จากเมื่อก่อน กิโลละ 200-500 บาท มาถึงทุกวันนี้ถ้าตัวใหญ่มากๆสามารถขายได้ถึงกิโลละ 800 – 1,300 บาท เลยทีเดียว
วันนี้จึงอยากแนะนำอาชีพเสริมที่สร้างรายได้ไม่น้อย ให้ชาวคนเมืองที่มีพื้นที่จำกัด ซึ่งเราสามารถเลี้ยงตามระเบียงบ้านก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นทาวน์เฮ้าส์ หรืออพาร์ทเม้นท์ คอนโดมิเนียม ก็สามารถเลี้ยงกุ้งแบบคอนโดได้ พูดอย่างนี้บางคนคงจะแปลกใจ เลี้ยงกุ้งคอนโดเป็นยังไง มันก็คือการเลี้ยงกุ้งในขวดพลาสติกหรือชั้นกล่องพลาสติกไงครับ ใช้พื้นที่น้อยมาก โดยใช้ขวดน้ำ หรือชั้นกล่องพลาสติกทรงสี่เหลี่ยม เหมือนสระน้ำเล็กๆ ให้กุ้งอยู่ แล้วหาวัสดุ จำพวกท่อน้ำ ตัดเป็นท่อน ๆ ละ 3-4 นิ้ว เป็นที่หลบซ่อนของกุ้ง เพราะกุ้งชนิดนี้ เป็นกุ้งขี้อาย ใช้พื้นที่ไม่กี่ตารางเมตรก็สามารถเลี้ยงได้ และที่เรียกว่า “กุ้งคอนโด”เพราะสามารถเลี้ยงในขวดน้ำพลาสติกได้ และสามารถตั้งซ้อนกันได้ หลายๆขวดเป็นชั้นๆคล้ายคอนโดนั้นเอง
วิธีการการเลือกซื้อพันธุ์
ให้ซื้อลูกกุ้งขนาดประมาณ 4-5 ซม. พันธุ์กุ้งที่ดีควรมีการว่ายน้ำ ปราดเปรียว แข็งแรง สาเหตุที่ใช้ตัวประมาณนี้เพราะ มีอัตราการรอดที่สูงกว่า ถ้าขนาดเล็กกว่านี้อัตราการรอดจะต่ำมาก
ก่อนอื่นเราต้องหาพ่อพันธุ์ และแม่พันธุ์กุ้งก้ามมาสัก 3 คู่ นำมาเลี้ยงไว้ในตู้ปลา และพอได้ลูกกุ้ง ครั้งแรก ประมาณ 500 ตัว เราก็หาวัสดุมาเพาะเลี้ยงเพิ่มเติม นั้นคือ”ขวดพลาสติก”นั้นเองครับ นำมาเจาะรูเป็นช่องเพื่อนำอาหารใส่ลงไปได้ และเจาะรูเล็กๆ สัก 4-5 รูเพื่อระบายอากาศในขวด
‘หมุนเวียนน้ำ’ หัวใจสำคัญของการเลี้ยงกุ้ง
น้ำที่จะใช้เลี้ยงกุ้งจะใช้น้ำประปาก็ได้ แต่จะต้องผ่านกระบวนการกำจัดคลอรีนออกแล้ว น้ำมีค่าความเป็นกรด-ด่าง ประมาณ 7-8 (ค่า pH=7-8) ส่วนระบบการหมุนเวียนของน้ำนั้นจะใช้วิธีการสูบน้ำไปในท่อ พีวีซี แล้วเจาะรูให้น้ำหยดลงมาตรงช่องที่วางขวดไว้พอดี เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของน้ำในขวดพลาสติก อัตราการปล่อยน้ำในเวลา 1 นาที ควรจะให้น้ำไหลเข้าขวดได้ประมาณ 600-800 ซีซี น้ำที่ล้นออกมาจากขวดจะไหลตกลงสู่บ่อพักด้านล่าง ซึ่งทำเป็นบ่อคอนกรีตที่มีกรวดและหินช่วยกรองเศษอาหารไว้ น้ำที่ผ่านกระบวนการนี้จะใสสะอาดพร้อมที่จะสูบขึ้นมาใช้ใหม่
โดยในวันแรกที่ปล่อยกุ้งลงในขวด อย่าเพิ่งให้อาหารกุ้ง ค่อยๆให้ในวันถัดมา โดยให้วันละ 2 ครั้ง เช้า เย็นในอัตราส่วน 5% ของน้ำหนักตัวกุ้ง หลังจากเลี้ยงกุ้งแม่น้ำได้ประมาณ 4-6 เดือน ก็จะมีขนาดตัวที่ใหญ่พอที่จะสามารถจับขายได้ แล้วแต่ขนาดและความต้องการของตลาด หากอยากขายได้ราคาก็ต้องเลี้ยงต่อไปอีกเพื่อให้ได้ขนาดตัวที่ใหญ่ขึ้น
ส่วนกุ้งแม่น้ำถ้าต้องการเลี้ยงให้ตัวใหญ่ก็ใส่กุ้งเพียงขวดละ 1 ตัวพอ แต่ถ้าไม่ต้องการใหญ่มากก็ใส่ได้ 3-4 ตัวได้ นอกจากนี้ถ้าเราอยากเลี้ยงจำนวนมากๆ ก็เพียงนำขวดพลาสติก มาวางซ้อนๆ กัน เจาะรูด้านบนขวด ขนาดเท่าฝาขวด ไว้เติมน้ำและให้อาหาร นำลูกกุ้งมาใส่ ขวดละ 1 ตัว เลี้ยงตัวยาวประมาณ 1 นิ้ว ก็นำมาขายตัวละ 10-17 บาท ในแต่ละเดือน สามารถขายลูกกุ้งได้ ไม่น้อยกว่า 1,000 ตัว ก็จะมีรายได้เดือนละไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท ส่วนเลี้ยงในคอนโด หรือเลี้ยงในขวด จะขุนให้เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ เป็นการสร้างรายได้เสริมนอกจากเงินเดือนประจำ หากขายพ่อ-แม่พันธุ์ จะขายได้คู่ละ 1,300 บาทเลยทีเดียว
เทคนิคที่ช่วยให้กุ้งโตไว ทันใจเรา
อาหารเสริมวิตามิน - อาหารที่เราใส่ให้กุ้ง ให้คลุกอาหารเสริมวิตามินเข้าไปด้วย กุ้งจะได้โตไวขึ้น
ทำระบบน้ำวน - ถ้าทำระบบน้ำวนได้จะดีมาก แต่ถ้าไม่ทำระบบน้ำวนก็ต้องอาศัยเปลี่ยนถ่ายน้ำบ่อยๆ โดยถ้าน้ำเริ่มขุ่นให้รีบเปลี่ยนทันที และควรเติมผง”แร่ธาตุ”ลงไปในน้ำทุกครั้งที่เปลี่ยนถ่ายน้ำ ( ผงแร่ธาตุจะช่วยให้กุ้งลอกคราบได้เร็วขึ้น ทำให้กุ้งเพิ่มขนาดตัวเร็วขึ้น )
น้ำต้องสะอาด และออกซิเจนในน้ำต้องเพียงพอ ที่สำคัญอย่าไปเปิดดูกุ้งบ่อยเกินไป เพราะเป็นการรบกวนกุ้ง กุ้งแม่น้ำชอบความส่วนตัวและความสงบ ถ้าไปส่องดูบ่อยๆ กุ้งจะตกใจไม่กล้าออกมากินอาหารจะทำให้โตช้าได้
ต้นทุนไม่มากมาย แต่ขายได้ราคาดี ไม่มีตก
ต้นทุนเบื้องต้นของการเลี้ยงขึ้นอยู่กับปริมาณกุ้งที่เราเลี้ยง ถ้าเราทุนน้อยก็อาจใช้ขวดพลาสติกใช้แล้วหรือถ้าใครพอมีทุนก็หาซื้อชั้นคอนโดเลี้ยงกุ้งสำเร็จรูปมาเลี้ยงเลยก็ได้ สะดวกและไม่ต้องยุ่งยากกับการทำระบบน้ำด้วย ราคาก็แล้วแต่ขนาด มีตั้งแต่หลัก100-หลักพันบาท ส่วนต้นทุนอาหารประมาณ 300 บาท/ ตร.ม.
ส่วนระยะเวลาในการเลี้ยงประมาณ 5-6 เดือน จะเริ่มจับขายได้ มีผู้เลี้ยงบางรายที่ทดลองเลี้ยง 6 ชั้น 48 กล่องสามารถจับขายได้ในเวลา 6 เดือน มีรายได้กว่า 50,000 บาท โดยราคาขายเป็นไปตามขนาดหากมีคนมารับซื้อราคาประมาณ 300-700 บาท ซึ่งพอไปถึงร้านอาหารราคาขายให้ลูกค้าในร้านอาจพุ่งไปถึงกิโลกรัมละ 800-1,300 บาท แต่ถ้าเราขายพ่อ-แม่พันธุ์ราคาขายจะสูงถึงคู่ละ 1,300 บาทเลยทีเดียว
สำหรับราคาขายขึ้นอยู่กับขนาดตัว สามารถขายได้ตั้งแต่กิโลกรัมละ 300 – 1,300 บาท การเลี้ยงกุ้งแม่น้ำนั้นอาจจะใช้เวลานานหลายเดือนกว่าจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในแต่ละครั้ง แต่หากเราเลี้ยงไว้ในปริมาณที่มากพอสมควร ก็สามารถสร้างรายได้เสริมอย่างเป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว เหมาะกับคนทำงานประจำมีเวลาน้อย เพราะกุ้งเลี้ยงดูแลง่าย ไม่ยุ่งยาก ไม่ซับซ้อน แต่ถ้าใครจะเลี้ยงเป็นอาชีพ บอกเลยว่าสร้างรายได้ถึงหลักแสนเลยทีเดียวครับ
โดยปัจจุบันนี้การขายผ่านช่องทางออนไลน์ ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ทำได้ง่าย สะดวก เป็นช่องทางขายที่เราสามารถขายได้ตลอด 24 ชม.อีกด้วย
ท้ายสุดนี้ สำหรับใครที่กำลังตกงานหรือมองหารายได้เสริม การเลี้ยงกุ้งคอนโด ที่ทำได้ง่ายๆ ลงทุนน้อย มีพื้นที่จำกัด ขอแนะนำอีกหนึ่งอาชีพที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ กับการเลี้ยงกุ้งแม่น้ำในขวดพลาสติก คนที่เขาเลี้ยงและประสบความสำเร็จมีมากมายเช่นเดียวกัน ส่วนผู้ที่ไม่ประสบความสำเร็จก็มีไม่น้อยเช่นกัน
สำคัญคือเราต้องศึกษาอย่างตั้งใจ ขยันทำจริง เพราะอาชีพนี้หากทำสำเร็จ สร้างรายได้ดีกว่าทำงานประจำเลยทีเดียว ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยนะครับ
สำหรับคนมองหาอาชีพรายได้ดีหรือจะทำเป็นรายได้เสริมก็น่าสนใจไม่น้อยในยามเศรษฐกิจผันผวนแบบนี้
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.in.th ขอขอบคุณที่มา : thaiquote