เคล็ดลับพารวย ฉบับมนุษย์เงินเดือน จากเป็นหนี้ มีเงินเก็บเป็นแสน
ชีวิตคนเรามันสั้นเวลาที่ผ่านไปทำให้ลดความสามารถในการเดินวิ่ง หรือคิด มันจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องใช้เวลาที่มีอยู่ในตอนนี้ให้ดีที่สุด ถ้ารักชีวิตก็อย่าทิ้งขว้างเวลาเพราะชีวิตที่ดีเกิดจากการใช้เวลาอย่างเห็นคุณค่า วันนี้เรามีอีกหนึ่งบทความเกี่ยวกับการใช้ชีวิตถือว่าเป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่ดีเป็นอย่างมากเลย
ในช่วงที่ผ่านมามีข่าวพนักงานโดนปลด กระทันหัน บริษัท เลิกจ้าง หรือ ปิดกิจ การแบบไม่ได้บอกล่วงหน้า เมื่อเห็นแบบนี้แล้วก็รู้ได้เลยว่าอะไรๆก็เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาหากเรายังไม่รู้จักรับตัว อาจจะทำให้ลำบากได้ในอนาคตที่ผ่านมา…ผมได้มีโอกาสรู้จักนักงานในบริษัทแห่งหนึ่ง ชีวิตก็เหมือนกับพนักงานคนอื่นๆ มีหนี้สิน หนี้บัตร ผ่อนของใช้ต่างที่อยากได้ หาเงินได้แบบเดือนชนเดือน บางเดือนก็ไม่เหลือ บางเดือนก็ต้องไปหาหยิบยืม ด้วยแนวคิดที่ ว่า… “ต้องเป็นหนี้ถึงจะมีแรงกระตุ้นในการทำงาน”
ในช่วงเวลา 5 ปีแรกในการทำงาน จึงวนอยู่กับการใช้หนี้บัตรอย่างเดียว ใช้หนี้ที่ตัวเองก่อไว้ โทรศัพท์ ทีวี เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอในบ้านต่างๆ จนวันนึงเขารู้สึกทนไม่ไหวกับภาระหนี้สินที่แบกไว้ มีความคิดอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ เขาโยนบัตรทุกใบทิ้งหมด คืนรถยนต์ที่ผ่อนมาเป็นปี ย้ายออกจากคอนโดหรูเดือนละ 1 หมื่น ไปเช่าห้องเช่าเล็กๆเดือนละ 1,200 ( ห้องน้ำรวม ) จากเคยกิน สเต็ก ชาบู เดินห้างดูหนังกับเพื่อนๆอยู่เป็นประจำ เขาต้มไข่ 1 ฟอง ละลายพริกน้ำปลาไปกินที่ทำงาน
กลับมาบ้านลูกชิ้น 1 ไม้ และ ข้าวที่หุงเอง หยอดน้ำดื่มจากตู้กดน้ำหยอดเหรียญเพื่อนที่ออฟฟิตตีตัวออกห่าง เพราะเขาไม่ไปกับสังคมเพื่อนกลุ่มนี้เหมือนเมื่อก่อนห่อข้าวกับไข่ต้มมาทำงาน กินน้ำฟรีที่บริษัท เย็นกลับบ้าน กินลูกชิ้นบ้าง มาม่าบ้าง ไข่เจียวบ้าง
ซึ่งเราก็เน้น ทำกับข้าวกินเอง ซื้อของที่ตลาดมาตุนไว้เพื่อลดค่าใช้จ่าย ทำแบบนี้เป็นปีๆ จากที่เป็นหนี้กลายเป็นมีเงินเก็บ 4-5 หมื่น เดือนไหนได้ค่าคอมมากก็ได้เก็บมาก แต่ก็ประหยัดมากขึ้น เขายังคงใช้ชีวิต เหมือน เดิม ห่อข้าวมากิน พักห้องเช่าห้องน้ำรวม จนวันนึงจุดเปลี่ยนชีวิตมาถึงตากผ้าห่มไว้แต่กลับโดนขโมยเขาไม่ต้องการซื้อผ้าห่ม ชุดเครื่องนอนด้วยเงินสด
เพราะที่ผ่านมารู้คุณค่าของ เงินมาחขึ้น เขาตัดสินใจผ่อนผ้าห่ม กับแขกที่แถวห้องเช่า ในร้านขาย 1,500 แขกให้ผ่อน สบายๆ 300 บาท 10 เดือน (รวมดอกเบี้ย) หารแล้วก็ตกวันละสิบบาทเอง เขาจึงตัดสินใจผ่อน คืนแรחที่นอนใต้ผ้าห่มใหม่ ใจก็ครุ่นคิด ดอกเท่าตัวเลยนี่หว่า
และแล้วก็จึงเกิดไอเดียขายผ้าห่มเงินผ่อนให้เพื่อนร่วมงาน เพราะรู้ว่าพนักงานในบริษัทชอบผ่อน เขาไปร้านขายชุดเครื่องนอน ไปขอแค็ตตาล็อกตัวอย่างเครื่องนอนแบบต่างๆมา เอาไปขายให้เพื่อนในแผนกสั่ง วันเดียวได้เป็นสิบๆ ชุดดาวน์ 500 ผ่อน 300 บาท 10 เดือน ต้นทุน 1,500 ได้กำไรเท่าบังเลย ปากต่อปากไปถึงแผนกอื่นชวนกันมาผ่อน
อีกไม่กี่เดือน เขาขายชุดเครื่องนอนในเพื่อนพนักงานนับร้อยชุด อาจมีโกงบ้างหนีบ้าง แต่คำนวณแล้วก็ยังกำไรอยู่ดี จากพนักงานธรรมดา ตอนนี้มีเงินให้ผู้จัดการกู้ เขามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นโดยไร้บัตร ได้ชีวิตสะดวกสบายกลับคืนมา มีเงินสด ซื้อรถ ซื้อบ้าน แต่เขายังคงทำตัวเรียบง่าย ในการใช้จ่ายเหมือนเดิม คงเพราะเคยชินแบบปรับตัวได้แล้วกับรูปแบบชีวิตแบบนี้ ห่อข้าวมา กินเหมือนเดิมแต่.. อาหารดีกว่าเดิมตามฐานะ
จากเป็นหนี้… กลายเป็นมีเก็บเป็นแสนบทความนี้เขียนให้เห็นถึงการปรับตัวการประหยัดและแนวทางการใช้ชีวิตเพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ในบางช่วงของชีวิตอย่าได้มองเรื่องการผ่อนของเอากำไรเท่าตัวของเขาเป็นเรื่องเอาเปรียบคนอื่นเพราะกู้เงินแบงค์ซื้อบ้านดอกก็เท่าตัวเหมือนกันให้ดูที่ไหวพริบการพลิกชีวิตของเขา
การลดอัตรา ลดฐานะ ลดหน้าตาทางสังคมลงบ้าง มันทำให้ชีวิตดีขึ้นได้ตอนเขาห่อไข่ต้มมากินที่บริษัทเพื่อนๆร่วมโต๊ะบางคนถึงกับลุกหนี มีซุบซิบบ้าง นินทาบ้าง แล้วเป็นไง… คนเหล่านั้นก็ต้องมากู้เงินเขาใช้ลองดูที่ตัวเราครับ… อะไรบ้างในชีวิตที่ไม่จำเป็นก็ตัดออก เคยอยู่ห้องเดือนละ 3,500 ลองไปดูห้องพัดลมแถวๆ ที่ทำงานเดือนละ 2,000 ดู
ยุคนี้ไม่ประหยัดอยู่ยาก ยุคนี้ไม่หาอาชีพเสริมก็คงไม่รวยหลงวัตถุตามสังคมก็คงจะก่อร่างสร้างตัวลำบาก วันนี้หากคุณซื้อแต่ของที่อยากได้เพื่อเอามาอวดคนอื่น… สักวันนึง…!! คุณจะต้องขายของที่จำเป็นที่พอขายได้ราคาเพื่อรักษาฐานะเอาไว้กินน้อยลงจ่ายน้อยลง แต่รายได้มากขึ้นไม่กี่ปีก็ลืมตาอ้าปากได้ทุกอาชีพ… ทำได้ก็รอดอยู่ที่ว่าจะทำหรือไม่ยังแคร์สายตาคนรอบข้างมากแค่ไหน
บอกเลยว่าถ้าทำได้ตามบทความนี้ ร่ำรวยแน่นอน เพราะบางครั้งชีวิตก็ต้องผ่านความลำบากมาก่อนถึงจะถึงขั้นที่มีความสุขสบาย แต่บางคนโชคดีหน่อย คือฐานนะครอบครัวดีอยู่แล้วก็ต้องสานต่อรักษามันไว้ให้ดีนะครับ
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.in.th บทความนี้เขียนโดย : คุณติ๊ก สิริทัศน์ สมเสงี่ยม