นาทีทองคนอยากมี บ้าน-คอนโด เร่งล้างสต็อก หลังยอดขายลดฮวบ
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว โครงการใหม่ที่เปิดตัวต้องหยุดชะงัก หลังยอดขายทรุดฮวบ เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาด รอบใหม่ การหาหนทางให้อยู่รอดของดีเวลอปเปอร์ทั้งรายใหญ่และรายเล็ก คือ การเทกระจาดลดแลกแจกแถม เร่งล้างสต็อกโครงการ ทั้งกลุ่มคอนโดมิเนียม และกลุ่มที่อยู่อาศัยแนวราบ จึงเป็นโอกาสดีสำหรับคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยจริงๆ
เมื่อวันที่ 9 ก.พ.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังหลายภาคส่วนคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยช่วงต้นปี 2564 จะทยอยฟื้นตัว แต่ต้องกลับฝันสลายเมื่อพายุโรคระบาด ลูกใหญ่ ซัดเข้ามารอบใหม่ ทำให้ทุกภาคส่วนของธุรกิจไม่เว้นแม้แต่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยคล้ายจะทรุดตัวอีกรอบ
การล้มลุกคลุกคลานของภาคตลาดอสังหาฯ ตั้งแต่ปี 2563 มาจนถึงต้นปี 2564 ยังต้องเผชิญปัญหาอย่างต่อเนื่อง ทั้งโรคระบาด หนำซ้ำรัฐบาลได้ออกมาตรการ LTV บังคับเงินดาวน์แพงขึ้นเป็น 10% เพื่อสกัดการเก็งกำไรคอนโดมิเนียม ทำให้กลุ่มอสังหาฯ แนวราบได้รับผลกระทบไปด้วย การเข้มงวดมาตราการออกสินเชื่อกู้ซื้อบ้าน และปัญหาหนี้ครัวเรือนพุ่งสูงขึ้น ก็ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชน
แม้ภาครัฐจะออกมาตรการล่อตาล่อใจ ด้วยนโยบาย ดอกเบี้ยต่ำ ต่ออายุลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างลง 90% ตลอดจน ลดค่าธรรมเนียมโอน-จดจำนอง เหลือ 0.01% ดูเหมือนว่าจะเป็นทางรอด 2 เด้ง ช่วยทั้งผู้ประกอบการให้ล้างสต็อกโครงการให้หมดเร็ววัน และผู้มีรายได้น้อยที่ต้องการที่อยู่อาศัยจริง แต่ต้องยอมรับว่า มาตรการดังกล่าวยังไม่สามารถกระตุ้นกำลังซื้อเหมือนเดิมได้
เมื่อการฟื้นตัวของตลาดอสังหาฯ เป็นไปอย่างชะลอตัว การหาหนทางให้อยู่รอดของดีเวลอปเปอร์ทั้งรายใหญ่และรายเล็ก คือ การเทกระจาด ลดแลกแจกแถม เร่งระบายโครงการ ทั้งกลุ่มคอนโดมิเนียม และกลุ่มที่อยู่อาศัยแนวราบ
คอนโดมิเนียม หลายแห่งอัดโปรโมชั่นลดราคาลง โดยพบว่า คอนโดมิเนียมราคา 5-10 ล้านบาท ปรับลดราคามากที่สุด 6.1 % รองลงมาคือระดับราคา 1-3 ล้านบาท ปรับราคาลง 5.9%
ในขณะที่กลุ่มที่อยู่อาศัยแนวราบ อย่างโครงการบ้านจัดสรร เติบโตพุ่งกระฉูด อัดโปรโมชั่นร้อนแรงไม่แพ้กัน เมื่อความสนใจจากกลุ่มลูกค้าคอนโดหันเห เปลี่ยนทิศทางมองหาบ้านแทบชานเมืองมากขึ้น เนื่องจากสถานการณ์โควิด ทำให้บ้าน ตอบโจทย์นิวนอร์มอล ด้วยพื้นที่ใช้สอยกว้างขว้าง เพื่อสุขภาพและความปลอดภัย ทั้งนี้ครึ่งหลังปี 2563 พบว่าบ้านเดี่ยวราคา 3-5 ล้านบาท ขยายตัวมากที่สุด และคาดการณ์ว่าในปีนี้ จะขยายตัวต่อเนื่องเช่นกัน
อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยลบที่สำคัญ ที่ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯต้องกังวลกับการเปิดตัวโครงการใหม่ นั่นคือ ยอดปฎิเสธสินเชื่อ หรือ กู้ไม่ผ่าน ที่มีสถิติสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 80% นอกจากการพิจารณาต่ออายุมาตรการลดค่าโอน-จดจำนองแล้ว หลายฝ่ายจึงอยากให้รัฐบาล ปลดล็อกการขอสินเชื่อโดยไม่ต้องใช้ผู้กู้ร่วม รวมถึงการคุ้มครองเงินดาวน์ระหว่างคู่สัญญา เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ซื้อ ว่าซื้อแล้วจะไม่ถูกโกง หรือมีการคืนเงินเต็มจำนวนหากกู้ไม่ผ่าน
จึงเป็นทางออกสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ซื้อได้มากขึ้น ปี 2564 จึงนับเป็นนาทีทอง สานฝันคนอยากมีบ้านที่แท้จริง เนื่องจากปัจจุบันการตัดสินใจซื้อ จะอยู่ที่ผู้ซื้อเป็นหลัก และยังสามารถต่อรองราคาในงบประมาณที่เราต้องการได้
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.in.th ขอขอบคุณที่มา : pptvhd36