เด็กแรกเกิดไม่ควรนั่งคาร์ซีท ให้แม่อุ้มปลอดภัยกว่าจริงหรือ
คุณพ่อคุณแม่หลายท่านคงจะพอทราบแล้วว่า คาร์ซีทนั้น สามารถใช้ได้กับทารก ตั้งแต่แรกเกิดเลย แต่สำหรับคุณแม่ยายหลายท่าน อาจจะยังไม่ทราบ จนกลายเป็นประเด็นดราม่ากันภายในครอบครัว อย่างเช่นกับเคสนี้
โดยสมาชิกพันทิปหมายเลข 5720063 ได้ออกมาแบ่งปันประสบการณ์เล่าว่า.."เด็กแรกเกิดไม่ควรนั่งคาร์ซีท เพราะไม่ปลอดภัย ให้แม่อุ้มปลอดภัยกว่า / พยาบาลบอกแบบนี้ เครียดมาก"
สวัสดีครับ พ่อๆแม่ๆ Pantip ผมมีเรื่องอัดอั้นตันใจอยากมาเล่าให้ฟังครับพึ่งไปรับลูกกลับบ้านมาครับ จากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง *ขออนุญาตเอาชื่อโรงพยาบาลออกนะครับ
น้องผ่าคลอดตามเกณฑ์ ไม่ได้คลอดก่อนกำหนด น้องแข็งแรงดีครับก่อนอื่นต้องขอชื่นชมคุณหมอ ทั้งคุณหมอที่ทำคลอด และคุณหมอเด็ก ที่ดูแลลูกและภรรยาผมอย่างเอาใจใส่บริการดีมากๆครับ ประทับใจนะครับ พยาบาลก็ดีมากครับ ใส่ใจดูแลอย่างดี
ก่อนพาน้องกลับ ผมได้เตรียมคาร์ซีทแบบกระเช้าของ Graco รุ่นสำหรับเด็กอ่อน (0-9 เดือน) เอาไว้ ซื้อมา 3 หมื่นกว่าบาทครับ (เป็นเซ็ตพร้อมรถเข็น)
ทุกอย่างราบรื่นดีมากครับ จนกระทั้งถึงเวลากลับ ผมจะเอาน้องลงคาร์ซีม (ที่ประกอบกับรถเข็นไว้แล้ว) แต่พยาบาลไม่ยอมครับ เขาบอกว่าขอลงไปส่งน้องที่รถ ซึ่งก็เข้าใจได้ว่าเป็นระเบียบของโรงพยาบาลเอกชนส่วนใหญ่ ที่ต้องไปส่งคนไข้ให้ถึงหน้าประตู ก็ไม่ได้ติดใจอะไรในจุดนี้ครับ เป็นบริการที่ดี ที่เอาใจใส่ลูกค้านะครับ
พออะไรเรียบร้อยแล้ว พยาบาลของเนิร์สเซอรี่ก็เข็นแม่และน้องลงมาส่ง (รถเข็นของโรงพยาบาล สำหรับเด็กเล็ก เป็นที่นอนแบบเข็นได้)
พอมาถึงหน้าประตู ผมก็จะเตรียมน้องลงคาร์ซีท ก็เกิดเรื่องครับพยาบาลเนิร์สเซอรี่ไม่ยอมให้ผมเอาน้องลงคาร์ซีทครับผมก็บอกว่า "ให้น้องนั่งคาร์ซีทดีกว่าครับ อันนี้เป็นรุ่นสำหรับเด็กแรกเกิด ปลอดภัยกว่าเวลาอยู่บนรถ"
คราวนี้เวรเปลก็เสริมขึ้นมาว่า "อย่าเลยครับ น้องยังเล็กอยู่เลย"แม่ยายก็ไม่ยอมให้ผมเอาลูกลงคาร์ซีท เพราะคิดว่ามันอันตรายกับเด็กผมไม่ยอม ผมจะเอาลูกลงคาร์ซีท เพราะอยากให้ลูกได้รับการป้องกันเหตุไม่คาดฝันอย่างดีที่สุดก็ถกเถียงกันอยู่เล็กน้อย
พยาบาลก็พูดขึ้นมาว่า "คุณพ่อคะน้องยังเล็กมากอย่าพึ่งให้น้องนั่งคาร์ซีทเลยมันไม่ปลอดภัย ให้คุณแม่อุ้มไปเถอะนะคะปลอดภัยกว่าค่ะ ให้คุณแม่อุ้มน้องเถอะนะคะ"
ผมนี่เงิบไปพักนึงเลย ทุกคนในที่นั้นก็พยายามทัดทานผมพอได้สติผมก็เริ่มเสียงแข็งใส่ทุกคนในที่นั้นว่า "ไม่ได้ครับ แล้วถ้าเกิดรถชนล่ะ"แม่ยายก็บอกให้ผมขับรถดีๆ สิพอถึงตรงนี้ ภรรยาผมก็ร้องไห้
ผมจำต้องหยุดทุกอย่างแล้วเดินไปเอารถ ผมพยายามติดต่อหมอเด็กทางโทรศัพท์ในระหว่างเดินไปที่รถ แต่เนื่องจากคุณหมอขึ้นเยี่ยมคนไข้ที่วอร์ด จึงมีพยาบาลรับเรื่องจะให้คุณหมอโทรกลับสุดท้ายก็ต้องยอมแพ้ แล้วขับรถมารับลูกขึ้นรถทั้งอย่างนั้น
พอถึงหน้าประตู ภรรยาก็อุ้มลูกขึ้นมานั่งเบาะหน้า ผมจึงไล่ให้ภรรยาย้ายไปนั่งเบาะหลัง แล้วชี้ป้ายเตือนที่ติดตรงแผ่นบังแดดให้ดูว่าเด็กเล็กห้ามมาอยู่เบาะหน้า
ระหว่างทางที่ขับกลับบ้าน ผมเครียดไปหมด กังวลไปทุกสิ่งอย่าง แล้วน้ำตามันก็ไหลออกมามันเป็นความรู้สึกที่เจ็บใจมาก ว่าลูกเราแค่คนเดียวเรายังไม่มีปัญญาต่อสู้เพื่อมอบความปลอดภัยในการเดินทางให้กับเขาได้วันนั้นผมจับรถกลับบ้านด้วยความเร็วไม่ถึง 40 คลานกลับไปจนถึงบ้าน
ผมโกรธมากๆ ครับ ผมอยากจะถามพยาบาลคนนั้นมาก ว่าคุณเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลเด็กแรกเกิด ทำไมคุณถึงกล้าพูดอะไรแบบนั้นออกมา คุณไม่ศึกษา ไม่เรียนรู้หรอว่า สถิติสาเหตุอันดับ 1 ที่ทำให้เด็กเสียชีวิตบนท้องถนน เพราะให้แม่อุ้ม/ไม่นั่งคาร์ซีทคุณพูดแบบนั้นออกมาได้ยังไงใช่ครับ อุบัติเหตุมันไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ แต่ถ้ามันเกิดล่ะ?
สุดท้าย เราถึงบ้านกันอย่างปลอดภัยครับ แต่พอถึงบ้าน ผมต้องมาเจอปัญหาครอบครัว เถียงกันเรื่องนี้กับแม่ยายและภรรยาผมผิดมากไหม ที่ปกป้องลูกไม่ได้ นึกขึ้นมาทีไร ผมยังน้ำตาไหลอยู่เลยโชคดีที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
สรุปได้ว่า สามารถใช้ได้กับทารก ตั้งแต่แรกเกิดเลย แต่ต้องเลือกใช้ให้ถูกช่วงวัย คาร์ซีท แบ่งออกเป็น 3 ประเภทได้แก่
1. ประเภทสำหรับเด็กทารก (infant car seat)สามารถใช้ได้กับลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิดได้เลย ไปจนถึงลูกน้ำหนัก16 กิโลกรัม
2. ประเภทหมุนได้ (convertible seat) สามารถใช้กับลูกได้ ตั้งแต่แรกเกิด ไปจนถึงลูกน้ำหนัก 36 กิโลกรัม
3. ประเภทบู๊สเตอร์ซีท (Booster Seat)สำหรับเด็กที่โตเกินกว่า คาร์ซีทชนิดแบบหมุนได้ แต่ยังไม่โตมากพอสำหรับการใช้เข็มขัดนิรภัยแบบผู้ใหญ่ ซึ่งการใช้เข็มขัดนิรภัยแบบผู้ใหญ่นั้น จะต้องมีอายุเกิน 8 ปีขึ้นไป)
เมื่อทราบถึงการใช้งานของคาร์ซีทแต่ละประเภทแล้ว คุณแม่ๆ ก็คงไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไปใช่ไหมครับ เลือกคาร์ซีทให้เหมาะกับวัย และเพื่อความปลอดภัยของลูกน้อยเวลาเดินทางต้องมีคาร์ซีทหรือเบาะรองนั่งในรถ เป็นเรื่องจริงจังมาก เด็กๆ ทุกคนต้องใช้จนสูงถึง 130 ซม. หลายประเทศออกเป็นกฏหมายบังคับไปแล้ว
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.in.th ขอขอบคุณที่มา : สมาชิกหมายเลข 5720063