กรมขนส่งแจงแล้ว กรณีเรียกผู้ถือใบขับขี่ตลอดชีพมาสอบใหม่
จากกรณีกรมขนส่งทางบก มีแนวคิดในการที่จะให้ผู้ที่ถือใบขับขี่ตลอดชีพทำการสอบใหม่ หรือ ทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย เนื่องจากผู้ถือใบขับขี่ตลอดชีพส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ซึ่งก็มีทั้งคนที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วยต่อแนวคิดนี้
ล่าสุด 8 สิงหาคม 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อธิบดีกรมการขนส่งทางบกออกมาชี้แจงว่าประเด็นดังกล่าวนี้ยังเป็นแค่แนวคิดเท่านั้น โดย นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกมีแนวคิดในการเปลี่ยนใบขับขี่ตลอดชีพจากบัตรแบบกระดาษมาเป็นแบบสมาร์ทการ์ด มีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้ฐานข้อมูลผู้ถือใบขับขี่มีความสมบูรณ์และเป็นปัจจุบันมากขึ้น
เพราะผู้ถือใบขับขี่ตลอดชีพส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและอยู่ในฐานข้อมูลระบบเดิม โดยหากมาเปลี่ยนเป็นแบบสมาร์ทการ์ดที่มี QR Code แล้ว กรมการขนส่งทางบกจะมีฐานข้อมูลผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะนำไปต่อยอดพัฒนามาตรฐานใบอนุญาตขับรถของประเทศไทยครอบคลุมทุกมิติ เพื่อยกระดับความปลอดภัยทางถนนของประเทศ
ส่วนการทดสอบสมรรถภาพผู้ถือใบขับขี่ตลอดชีพใหม่ยังเป็นเพียงแนวคิดเท่านั้น ยังไม่มีการกำหนดมาตรการหรือแนวทางการดำเนินการที่ชัดเจน เพราะการกำหนดให้กลับมาทดสอบเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งกรมการขนส่งทางบกอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ อย่างไรก็ตามที่มาของแนวคิดดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับความปลอดภัยในการขับขี่ของประชาชนและผู้ใช้รถใช้ถนน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถมีความพร้อมเพียงพอ ดังนั้น กรมการขนส่งทางบกจึงต้องหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้านเพื่อให้มีความรอบเหมาะสมในการดำเนินการ
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันนี้กรมการขนส่งทางบก มีความเข้มข้นในกระบวนการก่อนออกใบอนุญาตขับรถ ด้วยการให้มีการทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ประกอบด้วย การทดสอบความสามารถในการมองเห็นสัญญาณไฟจราจร ความสามารถในการใช้สายตาทางลึก ความสามารถในการใช้สายตาทางกว้าง และปฏิกิริยาในการใช้เบรก นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบกเห็นถึงความสำคัญในการใช้รถร่วมกันกับผู้สูงอายุ แนวทางการอบรมได้เพิ่มเนื้อหาอบรมให้ทราบถึงลักษณะและสภาวะการใช้รถของผู้สูงอายุ เพื่อให้เกิดทัศนคติที่ดีในการใช้รถร่วมกันระหว่างวัยที่แตกต่างกัน
และในอนาคต กรมการขนส่งทางบกยังได้จัดทำแนวทางในการยกระดับมาตรฐานการออกใบอนุญาตขับรถ 7 มิติด้วยกัน โดยเฉพาะมิติที่ 1 ในเรื่องการกำหนดสภาวะของโรคที่เป็นอุปสรรคต่อการขับรถ และมิติที่ 2 การประเมินสภาวะของร่างกายที่มีผลต่อการขับรถ (Medical Fitness to Drive) ซึ่งทั้งสองมิติดังกล่าวกรมการขนส่งทางบกได้หารือร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงสาธารณสุขและแพทยสภา โดยเฉพาะเมื่อผู้ขับขี่สูงอายุมากขึ้น สภาวะของโรคที่เกิดตามมาและสภาวะร่างกายอาจเป็นอุปสรรคต่อการขับรถได้ เพื่อให้เกิดจิตสำนึกที่ดีการใช้รถที่ปลอดภัยร่วมกันในท้องถนน
ทั้งนี้ ผู้ที่ถือใบขับขี่ตลอดชีพในรูปแบบกระดาษ ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี รวมไปถึงกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะมีสมรรถภาพการขับขี่ที่ไม่สมบูรณ์ โดยปัจจุบันคาดว่าอาจจะมีใบขับขี่ประเภทนี้มากถึงหลักล้านใบทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม กรมฯ ได้มีการยกเลิกออกใบอนุญาตขับขี่แบบตลอดชีพมาตั้งแต่ปี 2546
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.in.th