แบ่งปันประสบการณ์ทำงานเรือสำราญได้เที่ยวรอบโลกจริงเหรอ

       การท่องเที่ยวด้วยเรือสำราญ ถือว่าเป็นธุรกิจที่เติบโตขึ้นมาหลังช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึงว่าปัจจุบันการท่องเที่ยวด้วยเรือสำราญนั้น อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูง แต่ยังคงเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลก 

วันนี้ kaijeawจะมาแบ่งปันทำงานเรือสำราญ กินฟรี อยู่ฟรี เที่ยวรอบโลกจริงหรือไม่ โดยสมาชิกพันทิปหมายเลข 6036545 เล่าว่า “ทำงานเรือสำราญ กินฟรี อยู่ฟรี เที่ยวรอบโลก” 

นี่คือหนึ่งในคำเชิญชวนจากเอเจนซี่ที่เป็นตัวแทนรับสมัครคนไปทำงานบนเรือสำราญ ซึ่งที่พูดมาก็ถือว่าไม่มีอะไรที่ผิดจากความจริง 
แต่สำหรับคนชอบเที่ยวแล้ว มาดูกันว่างานนี้ได้เที่ยวรอบโลกจริงมั้ย (ระหว่างทางจากไอซ์แลนด์ไปกรีนแลนด์)

เราชอบแบ็คแพ็คเที่ยวต่างประเทศค่ะ จนวันหนึ่งเลยลองหางานที่ได้เที่ยวต่างประเทศด้วยและได้เงินด้วยจนมาเจองานเรือสำราญ ใครที่อยากไปทำงานเรือเพราะอยากเที่ยวรอบโลก วันนี้เรามีคำตอบมาให้แล้วค่ะ ว่าได้ไปรอบโลกจริงมั้ย?

คำตอบคือ จริง  แต่!! (ขีดเส้นใต้เน้นๆ คำว่า”แต่!”) ขึ้นอยู่กับบริษัทที่คุณทำว่ามีport อยู่ทั่วโลกมั้ย 
รวมถึงคอนแทรคและเรือที่คุณต้องขึ้นไปทำงาน เรือที่คุณขึ้นไปทำงาน วิ่งไปที่ไหนบ้างในช่วงระยะเวลาสัญญาจ้างที่คุณอยู่บนนั้น (6-8เดือน)

(Boston, USA  ไม่ได้ออกเพราะติด drill ค่ะ)

ตัวอย่างเช่น คุณอยากไปเที่ยวยุโรป แต่คุณไปสมัครเรือบริษัทเอเชีย ซึ่งวิ่งอยู่แถวๆสิงคโปร์ ภูเก็ต ฮ่องกงอันนี้ไม่น่าทำให้ฝันคุณเป็นจริง เว้นเสียแต่ช่วงพักร้อนคุณต้องไปซื้อตั๋ว ทำวีซ่า แล้วบินไปเที่ยวยุโรปด้วยตัวคุณเอง

อีกตัวอย่างนึง คุณอยากไปเที่ยวยุโรป และบริษัทที่คุณทำมีport อยู่ทั่วโลก แต่!! คอนแทรคกับเรือที่คุณได้ เรือมันไม่ได้วิ่งไปยุโรปเลย สามารถเช็คเส้นทางเดินเรือ(itinerary)ได้ที่เว็บ cruisemapper.com 

เช่น คุณต้องขึ้นไปทำงาน ชื่อเรือ A ช่วงเดือนสิงหา62-เมษายน 63 ช่วงเวลาดังกล่าว เรือ A วิ่งอยู่แถวอะลาสก้า จากนั้นไม่กี่เดือนก็เปลี่ยนมาวิ่งแถวๆแคริบเบียน จนคุณหมดสัญญาแล้วบินกลับไทย ดังนั้นแปลว่า คุณได้เที่ยวแค่อะลาสก้ากับแคริบเบียนเท่านั้น ยุโรปยังไม่ได้ไป แถม 8 เดือนที่อยู่บนเรือก็มีแต่port เดิมๆ เมืองเดิมๆ นี่คือเรื่องจริง

(Grand Turk อยู่แถวๆแคริบเบียน)

ถ้ายังพอทำงานเรือได้อยู่อาจมีต่อคอนแทรค2 แต่ก็ไม่ได้ยืนยันว่าคุณจะได้รูท(เส้นทาง)ที่คุณต้องการเคยคุยกับเพื่อนคนนึง เค้าทำมา3 คอนแทรคแล้ว และยังไม่เคยไปยุโรปเลย ถ้าเป็นคุณที่อยากไปยุโรปมากๆ หรือเที่ยวเส้นทางอื่นๆบ้าง คุณจะยังทำงานนี้ต่อมั้ย?

ถ้าได้เที่ยวรอบโลกจริงๆ คงต้องเป็นเรือที่เป็นเส้นทาง world cruise ใช้เวลาประมาณ 4 เดือน ซึ่งไม่ได้มีทุกลำทุกบริษัทที่ทำเป็น world cruise บวกกับความโชคดีของคุณว่าจะได้ assign ไปทำที่เรือลำนั้นมั้ยด้วยนะ และแน่นอนถ้าอยากไปรอบโลกแน่ๆ ชัวร์ๆคุณต้องทำซัก 10 คอนแทรคขึ้นไป ซึ่งคุยกับเพื่อนที่เค้าทำมานาน เค้าว่าไปมาหมดแล้วรอบโลก แต่ในความจริง คุณจะอดทนทำงานนี้จนถึง10 คอนแทรคเพื่อที่จะได้ไปเที่ยวรอบโลกมั้ย ลองคิดดูดีๆนะคะ

อีกอย่างหนึ่งคือ บริษัทจ้างเราไปทำงานไม่ได้ไปเที่ยว เรื่องเที่ยวคือผลพลอยได้ คนที่จะได้เที่ยวจริงๆคือ แขกค่ะ ไม่ใช่ Crew (ลูกเรือ)อย่างเราๆ หลายคนอาจจะไปส่องfacebook อินสตาแกรมของคนรู้จักที่ทำงานเรือ เห็นเค้าเช็คอินที่นู่นที่นี่ จริงๆแล้วมีเวลาเบรคแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น กว่าจะกลับเคบินไปเปลี่ยนชุด กว่าจะออกจากGangway กว่าจะเดินไปถึงที่เที่ยว ยังไม่ทันหายเหนื่อยก็ต้องรีบกลับเข้ามาบนเรือเพื่อทำงานต่อแล้วค่ะ

(ตอนไปเทรนเซฟตี้ STCW ครูฝึกถามเราว่า “ทำไมถึงอยากไปทำงานเรือสำราญ?”เราตอบว่า อยากไปเที่ยวรอบโลก!แล้วก็มีผู้ชายคนนึง เค้าทำงานเรือบริษัทเอเชียมาก่อน แล้วก็ย้ายมาทำบริษัทอเมริกันเค้าก็พูดบอกว่า “เหอะๆมีเวลาเบรคแค่ 2ชั่วโมง คิดเหรอว่าจะได้เที่ยว”
คืออยากจะบอกว่า ที่เค้าพูดวันนั้น มันคือ”เรื่องจริง”ค่ะคุณผู้ชม 5555+ )

อย่างเรา อยากออกไปเที่ยวมากๆ แต่ไม่มีเวลา (เพราะติดdrill) ก็ได้ออกมาแค่ 15 นาที!! ถ่ายรูปกับสูดอากาศบริสุทธิ์นอกเรือซักหน่อย เสร็จแล้วก็วิ่งกลับเข้าไปเปลี่ยนชุดแล้วทำงานต่อค่ะ ฮ่าๆ

(ถ่ายที่ Halifax,Canada วิ่งออกมาถ่ายรูป15นาที แล้ววิ่งกลับไปทำงานค่ะ)

หลายคนก็ไม่ค่อยได้ออกข้างนอก เวลาเรือจอดตามport ต่างๆ เป็นเพราะว่าเหนื่อยจากการทำงาน ดังนั้นเลือกที่จะไปนอนงีบเอาแรง ดีกว่าออกไปตะลอนๆข้างนอก แถมต้องกลับมาทำงานแล้วเหนื่อยกว่าเดิมที่ใฝ่ฝันไว้ว่าทำงานเรือสำราญแล้วได้เที่ยวรอบโลกคือต้องคิดดีๆแล้วล่ะค่ะ ว่างานนี้มันได้เที่ยวจริงๆมั้ย หรือแค่ชะโงกทัวร์ ถ้าเป็นแบบนี้เก็บตังค์มาเอง ดีกว่าค่ะ คือเที่ยวก็เที่ยวอย่างเดียวไปเลย ไม่ต้องมาพะวงเรื่องต้องรีบกลับเข้าเรือมาทำงาน

**สำหรับประสบการณ์การเป็นลูกเรือสำราญ2คอนแทรค (แต่เราอยู่ไม่จบแม้แต่คอนแทรคเดียวนะคะ ฮ่าๆ) เราไปมา 13 ประเทศค่ะ เริ่มจากคอนแทรคแรก ไปขึ้นเรือที่ไอซ์แลนด์ เราบินจากกรุงเทพไปเปลี่ยนเครื่องที่มิวนิค(เยอรมัน) แล้วไปลงไอซ์แลนด์ ขากลับ เราบินจากแคนาดา มาเปลี่ยนเครื่องที่มะนิลา(ฟิลิปปินส์) แล้วบินเข้าไทย

(St.John,Canada)

คอนแทรคที่สอง บินจากกรุงเทพไปฮ่องกงเพื่อเปลี่ยนเครื่องไปลงลอสแอนเจลิส (LA) จากนั้นบินต่อไปลงที่ไมอามี่ส่วนขากลับ ติดโควิดขึ้นเครื่องกลับที่ไมอามี่ไม่ได้ บริษัทเลยตัดสินใจเอาเรือมาส่งที่ฟิลิปปินส์ค่ะเส้นทางกลับเริ่มจากบาฮามาส  แวะเติมน้ำมันกับโหลดอาหารที่Cape town ประเทศแอฟริกาใต้จากนั้นมุ่งหน้าสู่จาการ์ต้าและขึ้นเครื่องกลับไทยที่มะนิลา ฟิลิปปินส์ค่ะ

(เรือกำลังออกจาก Fort Lauderdale,Florida)

(Table mountain : CapeTown, South Africa)

(ภูเขาไฟกรากระตัว อินโดนีเซีย ตั้งอยู่ระหว่างเกาะชวากับเกาะสุมาตรา )

ถามว่ารอบโลกมั้ย? ถ้าเอาลูกโลกมาตั้ง เราถือว่าเราไปมาแล้วรอบโลกนะคะ 

กรุงเทพ-มิวนิค -ไอซ์แลนด์- แคนาดา -มะนิลา- กรุงเทพ -ฮ่องกง- ลอสแอนเจลิส -ไมอามี่- บาฮามาส- แอฟริกาใต้- จาการ์ต้า- มะนิลา- กรุงเทพ

(บินเข้าอเมริกาครั้งแรก บินจากฮ่องกงมาลงที่แอลเอ)

ถือว่าคุ้มมั้ย? ถ้าให้ไปเองแบบนี้เราก็ไม่มีตังค์ที่จะซื้อตั๋วเดินทางเยอะขนาดนี้แน่ๆค่ะ แต่งานนี้แค่เราได้ไปอเมริกากับแคนาดาก็คุ้มแล้วค่ะ  เพราะไปเองน่าจะใช้เงินเป็นแสน ถ้าไม่ได้ทำงานนี้คงไม่มีโอกาสเดินทางเยอะแบบนี้แน่นอน

(Key West,Florida USA)

(Quebec,Canada)

จริงๆแล้วถ้าไม่มีโควิด วันนี้จะเป็นวันสุดท้าย(Last day)ของการทำงานบนเรือของเราค่ะแล้วก็disembarkบินกลับไทยวันพรุ่งนี้ ที่เมือง Kotor ประเทศมอนเตเนโกร ในยุโรป แต่ไม่เป็นไรค่ะ ถือว่าได้กลับมาแชร์ประสบการณ์ให้ทุกคนเร็วกว่ากำหนด 

       สำหรับกระทู้นี้น่าจะช่วยให้สายเที่ยวหรือคนที่มองหางานที่ได้เที่ยวรอบโลก ได้กระจ่างขึ้นแล้วนะคะว่า งานเรือสำราญได้ไปเที่ยวรอบโลก..จริงมั้ย? ถ้าดูรวมๆแล้ว ไม่ตอบโจทย์ในการได้เที่ยว ลองมองหางานอื่นๆหรือทำงานอื่นแล้วเก็บตังค์ไปเที่ยวเองจะดีกว่าค่ะ

เรียบเรียงโดย : kaijeaw.in.th ขอขอบคุณที่มา : สมาชิกหมายเลข 6036545