คลังเตือน โรงแรมแอบขึ้นราคาห้องพัก เราเที่ยวด้วยกัน ได้ไม่คุ้มเสีย
จากกรณี มีประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ที่ทางรัฐบาลจัดขึ้นเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว โดยมี 3 รายการย่อยคือ รัฐสนับสนุนค่าใช้จ่ายโรงแรมที่พัก 40 เปอร์เซ็นต์ของราคาที่พักต่อห้องต่อคืน (ไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน) และสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน 2 ล้านใบ โดยผู้จองที่พักมีสิทธิได้รับเงินสนับสนุนค่าบัตรโดยสาร ในลักษณะการจ่ายเงินคืนผ่านแอพพลิเคชั่น "เป๋าตัง" 40 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่เกิน 1,000 บาทต่อที่นั่ง และจองที่พัก 1 ห้อง จะได้รับสิทธิบัตรโดยสารไม่เกิน 2 ใบ ส่วนรถเช่าและรถโดยสารไม่ประจำทาง ยกเลิกการสนับสนุน เนื่องจากตรวจสอบการเดินทางข้ามจังหวัดไม่ได้ แต่เมื่อกดจองสิทธิ์ที่พักกลับพบว่ามีหลายโรงแรมแอบขึ้นราคาขึ้นจากเดิม หรือพอจองไปแล้วกลับได้ราคาสูงกว่าปกตินั้น 
ล่าสุด นายลวรณ แสงสนิท ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หลังจาก ที่ได้เปิดให้ประชาชนจองที่พักภายใต้โครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค.2563 พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทำให้ประชาชนสามารถวางแผนและเดินทางท่องเที่ยวในประเทศได้ โดยมีค่าใช้จ่ายที่ลดลง ขณะที่ผู้ประกอบการจะเริ่มมีรายได้เข้ามาหล่อเลี้ยงธุรกิจในช่วงที่ขาดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ก่อให้เกิดบรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศที่มีสัญญาณบวกมากที่สุด
“เพื่อรักษาแรงส่งต่อการฟื้นตัวของภาคธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งมีสัดส่วนเกือบ 1 ใน 5 ของเศรษฐกิจไทย จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบธุรกิจที่พักที่เข้าร่วมโครงการฯ ส่วนน้อยบางราย ซึ่งอาศัยโอกาสปรับราคาสูงขึ้นในช่วงนี้ ขอให้เว้นจากการดำเนินธุรกิจตามแนวทางดังกล่าว เนื่องจากผลประโยชน์ในระยะสั้น อาจได้ไม่คุ้มเสีย ทั้งชื่อเสียงและโอกาสธุรกิจในอนาคต เพราะผู้บริโภคในปัจจุบันมีการหาข้อมูลวางแผนการเดินทางและมีเทคโนโลยีช่วยในการเปรียบเทียบราคาและคุณภาพการบริการจากหลายแหล่ง ทำให้สามารถเลือกรับบริการจากผู้ประกอบการที่มีคุณภาพในราคาที่เป็นธรรมได้ ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะติดตามประเด็นดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง และพิจารณามาตรการที่เหมาะสมมาดูแลต่อไป” นายลวรณกล่าว
สำหรับเรื่องนี้ ก็อยากให้คนที่กดจองสิทธิ เราเที่ยวด้วยกัน เช็กก่อนจองที่พัก เพราะมีบางโรงแรมแอบฉวยโอกาสในช่วงนี้ ขึ้นราคาจากเดิม และโรงแรมอาจจะโดนเอามาโพสต์แฉผ่านทางโซเชี่ยลซึ่งนน่าจะส่งผลกระทบได้ในระยะยาว
ขอขอบคุณที่มาจาก : khaosod.co.th
