คนรุ่นก่อนๆ ทำอาชีพเดียว ทำไมรวยจัง แต่คนรุ่นใหม่ต้องมีอาชีพเสริม
คนสมัยก่อนมีเงินเก็บไว้เผื่อลูกเผื่อหลานทั้งที่ทำอาชีพเดียวก็สามารถใช้ชีวิตโดยไม่มีหนี้สิน แต่คนยุคนี้มีรายได้ทางเดียว อันตรายมาก ถึงต้องมี “อาชีพที่สอง”เพื่อความอยู่รอด แทบไม่เหลือเก็บ
ล่าสุดมีสมาชิกพันทิปรายหนึ่งตั้งกระทู้คำถามว่า "คนรุ่นก่อนๆ ทำอาชีพเดียว ทำไมรวยจัง" คนรุ่นก่อนทำอาชีพเดียว ทำไมดูรวย และ มั่นคง คนรุ่นใหม่ทำอาชีพเสริม แต่ทำไมแทบไม่พอใช้
ต่อมาก็มีชาวเน็ตเข้ามาแบ่งปันความรู้กันเป็นจำนวนมาก อาทิ เช่น ค่าใช้จ่ายสมัยก่อนมันน้อย รายได้ 100 จ่ายค่าน้ำไฟ กินใช้นิดหน่อย ใช้ 30 เก็บ 70 สมัยนี้ ค่าใช้จ่ายมันเยอะ รายได้ 100 ใช้ 150 ไม่มีเหลือเก็บ แถมกู้มาเพิ่มด้วย เพราะไม่พอจ่ายนอกจากน้ำไฟ ข้าวปลา ที่ต้องจ่ายแล้ว ยังต้องผ่อน รถ บ้าน โทรศัพท์ จ่ายค่าเน็ตมือถือ เน็ตบ้าน ค่าดูหนังเน็ตฟริก
ค่าดูยูทูป ค่าใช้บริการคลาวด์ แล้วสมัยนี้ทุกอย่างแยกย่อยหมด จะอาบน้ำที ไม่ใช่สบู่ก้อนเดียว ก็อาบน้ำได้แล้ว ต้องมีโฟมล้างหน้าต้องมีสบู่เฉพาะที่ ยาสระผมอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีครีมนวดผม ครีมหมักผม น้ำมันบำรุงผม แป้งเย็นกระป๋องเดียวแปะหน้าหลังอาบน้ำไม่ได้แล้วนะต้องมีโทนเนอร์เช็ดก่อน ต้องลงน้ำตบ ต้องทาเซรั่มก่อน ถึงจะลงโลชั่นได้ ต้องมีครีมกันแดดก่อน ถึงจะลงแป้งที่มันไม่พอใช้ ไม่ใช่รายได้เราน้อยกว่าคนสมัยก่อนนะ แต่รายจ่ายยิบย่อยเราเยอะมากกว่าคนสมัยหลายสิบเท่าตัว
คนน้อย ตลาดไม่สมบูรณ์ การแข่งขันไม่มี ถ้านึกภาพก็คือเมื่อก่อนคนไปเมืองนอกทีซื้อของกลับมาถูกกว่าซื้อที่ไทยมาก ของในเซนทรัลกำไรเกิน 100% หลายอย่างมาก เอามาเลหลังยังมีกำไรแต่ไม่ใช่ทุกคนที่รวย คนเจ๊งก็เยอะ เหมือนกันทุกยุคสมัย
สมัยก่อนสิ่งยั่วยุมันน้อย ทีวีหลังเที่ยงคืนทุกช่องปิดหมด หลังเที่ยงคืนทุกคนปิดไฟนอน ต่างคนต่างอยู่ หลายๆคนทั้งชีวิตไม่เคยขึ้นเครื่องบินสมัยนี้ ทุกคนมีมือถือ ในมือถือมีสิ่งล่อตาล่อใจ 24 ชม. 365 วัน แข่งกัน up facebook คนอื่นมีเราก้อต้องมี คนอื่นเที่ยวเราก้อต้องเที่ยว ใครไม่ใช้ไม่โชว์แปลว่าไม่รู้จักใช้ชีวิต
เมื่อก่อนของจุกจิกไม่ต้องซื้อป้ะ สมัยนี้ทั้งอาหารดึก ค่าสมัครแพกเกจเน็ต หนังออนไลน์ ช้อปปิ้งก็แค่คลิก เสื้อผ้าจากนานๆเปลี่ยนทีก็ซื้อบ่อยขึ้น ข้าวของที่ซื้อจากตลาดได้ ก็ไปแค่เซเว่นหรือห้างของแพงกว่าแต่แลกกับใกล้ ประมาณนี้มั้ย เดาๆ
อาชีพเดียวกันในอดีตกับตอนนี้ต่างกันที่โอกาสและการแข่งขันครับขยายความด้วยเทคโนโลยีสมัยก่อนโทรศัพท์บ้านและหยอดเหรียญแถมประชากรน้อยกว่าตอนนี้ถ้าคนมีเทคนิคเจาะลูกค้าได้นี่ยอดเข้ารัวๆแต่ตอนนี้โทรเอาสิครับมือถือมียิงแอ๊ดโน่นนี่ใครเค้าก็ทำกันตลาดกว้างขึ้นผู้เล่นเยอะชึ้น
คนสมัยนี้รายจ่ายเยอะครับ ของมันต้องมี ประสบการณ์ชีวิต ของธรรมดาใช้ไม่ได้ ใส่แล้วคัน ต้องมียี่ห้อชั้นนำระดับโลกรายได้คนสมัยนี้ มากกกว่าสมัยก่อนด้วยซ้ำ ถ้าใช้เงินแบบเดียวกับคน Gen B ก็มีอสังหาฯ ได้มากพอ ๆ กันแหละ เผลอ ๆ จะมากกว่าด้วยซ้ำ
เรื่องที่ดิน ปู่ย่าตายายมีเป็นร้อยไร่ สมัยนี้ก็ทำได้ ที่ดินห่างไกลตัวเมือง ราคาประเมินไร่ละ 500 600 บาท เองมั้ง สมัยก่อนที่ดินถูก ๆ ฟรี ๆ ก็คือป่าดี ๆ นี่แหละ ไม่มีไฟฟ้า ประปา พอเวลาผ่านไป 60 70 ปี เมืองมันขยายมาถึง ก็กลายเป็นของมีราคาขึ้นมายกตัวอย่าง ใครอายุ 40 50 ปีบ้าง ถ้าท่านอยู่ที่เดิมตั้งแต่เกิด สังเกตุมั้ย เมื่อก่อนรอบบ้านมีอะไรบ้างนอกจากต้นไม้ ทุกวันนี้รอบบ้านเป็นยังไงถนนคอนกรีตกี่เลนส์แล้ว
สรุปได้ว่า ค่าใช้จ่ายสมัยก่อนมันน้อย รายได้ 100 จ่ายค่าน้ำไฟ กินใช้นิดหน่อยใช้ 30 เก็บ 70 แต่ในยุคปัจจุบันชีวิตมีค่ามากขึ้น เช่น ค่าน้ำไฟ ค่าข้าวปลา ที่ต้องจ่ายแล้ว ยังต้องผ่อน ค่ารถ ค่าบ้าน ค่าโทรศัพท์ จ่ายค่าเน็ตมือถือ ค่าเน็ตบ้าน ค่าดูหนังเน็ตฟริก ค่าดูยูทูป ค่าใช้บริการคลาวด์ แล้วสมัยนี้ทุกอย่างแยกย่อยหมด จะอาบน้ำที ไม่ใช่สบู่ก้อนเดียว ก็อาบน้ำได้แล้ว ต้องมีโฟมล้างหน้า หมดไปแต่ละเดือนมิใช่น้อย
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.in.th ขอขอบคุณที่มา : สมาชิกหมายเลข 3091260