พาณิชย์ปล่อยคาราวานรถพุ่มพวง350คัน ขายผัก-ผลไม้ส่งถึงผู้บริโภค
วันนี้ 17 เม.ย.63 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานในพิธีปล่อยรถเร่ โครงการธงฟ้าฝ่า CO VID ว่า กระทรวงฯ ร่วมกับตลาดไท เร่งกระจายผลไม้และผักสดให้ออกไปสู่ผู้บริโภคผ่านช่องทางต่างๆ เพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะรถเร่หรือรถพุ่มพวง เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนเข้าถึงสินค้าได้รวดเร็วในช่วงที่ CO VID กำลังแพร่กระจาย รวมถึงในตลาดสด และซุปเปอร์มาร์เก็ต
สำหรับรถพุ่มพวงไม่ได้ขายแต่ผักและผลไม้ แต่เป็นรถที่จะนำสินค้าอุปโภคบริโภคสำคัญ เช่น ไข่ไก่เบอร์ 3 บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำมันปาล์ม เจลล้างมือ ปลากระป๋อง ข้าวหอมไทย และผลไม้ เช่น มะม่วง ไปขายให้กับประชาชนที่จุดใกล้บ้านเพื่ออำนวยความสะดวก และบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้และผักในช่วง CO VID
โดยรถพุ่มพวงที่เข้าร่วมโครงการกับกระทรวงพาณิชย์ในวันนี้มีจำนวน 350 คัน ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็นแนวทางที่เสริมกับช่องทางการซื้อขายปกติได้เป็นอย่างดี ส่วนการซื้อขายผักผลไม้สดที่ตลาดไท ยังดำเนินการได้อยู่ แม้ว่าจะติดช่วงเวลาเคอร์ฟิวอยู่บ้าง แต่ที่ตลาดได้อำนวยความสะดวกแก่ผู้ขนส่งสินค้าที่มาถึงช่วงดึก โดยจัดที่พักนอนให้จนกว่าจะออกไปได้อีกครั้งในช่วงเวลาตีสี่
สำหรับผลไม้ระยะนี้เริ่มออกมากขึ้นแล้ว เช่น มะม่วง ซึ่งได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัด และกรมต่างๆ ร่วมกันหาแนวทางการกระจายผลไม้ในประเทศ โดยกำลังจัดทำฐานข้อมูลสำหรับผลไม้แต่ละชนิดทั้งอุปสงค์และอุปทานที่จะออกมา และเฟ้นหากลุ่มที่จะช่วยกระจายผลไม้ได้
ซึ่งจะใช้กลไกลของสหกรณ์การเกษตรที่มีอยู่ทั่วประเทศมากกว่า 800 แห่งมาช่วยเสริมกับพาณิชย์จังหวัดในการรวบรวมผลไม้ เสร็จแล้วจะขอความร่วมมือจากไปรณีย์ไทยและแพล็ตฟอร์มการค้าต่างๆ ช่วยทำแคมเปญสนับสนุนการบริโภคผลไม้ไทยเกรดพรีเมี่ยม และในด้านการตลาดก็จะระดมทั้งช่องทางปกติ เช่น ตลาดในชุมชน ร้านค้าธงฟ้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ และช่องทางออนไลน์ จะมีการเปิดตัวพาร์ทเนอร์อีกครั้งในช่วงปลายเดือนเมษายนนี้
ขณะเดียวกันได้รับแจ้งจากทูตพาณิชย์ว่า คำสั่งซื้อและอุปสงค์สำหรับสินค้าเกษตรและอาหารไทยมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลไม้ ข้าว ไก่ และอาหารสัตว์ แต่ขณะนี้เส้นทางการขนส่งต่าง ๆ ระหว่างประเทศยังมีปัญหาจากมาตรการป้องกัน CO VID อยู่บ้างจึงทำให้ยังไม่สามารถผลักดันการส่งออกได้เต็มที่
อย่างไรก็ตาม ได้สั่งให้เตรียมการหารือกับภาคเอกชนไว้แล้ว ซึ่งในวันที่ 18 เมษายน จะไปพบกับผู้ประกอบการค้าข้าว และในสัปดาห์หน้าจะพบกับกลุ่มเกษตรกร และผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป ไก่ อาหารทะเล รวมทั้งจะพบกับภาคบริการที่ โดยกระทรวงพาณิชย์จะผลักดันการค้าทั้งในประเทศ และระหว่างประเทศอย่างเต็มที่
เพื่อระบบเศรษฐกิจการค้าเดินหน้าได้ และให้ประโยชน์ตกถึงมือพี่น้องเกษตรกรทุกกลุ่มให้ได้มากที่สุด เพราะถือเป็นฐานรากของประเทศเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ดีสำหรับแม่ค้า พ่อค้า และลูกค้า ที่มีรถเร่ขายสินค้าหรือรถพุ่มพวงมาบริการถึงหน้าบ้าน
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.in.th