ปิดเฟซหนีก็ไม่รอด รวบแล้วคู่รักโพสต์เย้ยรับเงิน 5 พันทั้งที่ใช้ชีวิตหรูหรา
จากกรณีสมาชิกเฟซบุ๊คชื่อ "บุ๋ม สตรอง" โพสต์ข้อความว่า เป็นคู่รักได้รับเงินเยียว 5,000 บาท แต่ใช้ชีวิตหรูหรามีทองคำเส้นโตใส่ และมีเงินเป็นจำนวนมาก จนถูกชาวโซเชียลวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม ไม่ควรได้รับเงินเยียวยา เพราะมีฐานะดีอยู่แล้ว จนทั้งคู่ต้องปิดเฟซบุ๊ค
ล่าสุดเวลา 23.00 น.วันที่ 9 เม.ย. พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.จ.ปทุมธานี ทราบมาว่าเจ้าของเฟซบุ๊คอยู่ในพื้นที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงสั่งการให้พ.ต.อ.เศรษฐณัณข์ ทิมวัฒน์ ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ต.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสภ.คลองหลวง ลงพื้นที่ติดตามเจ้าของเฟสบุ๊คมาสอบสวน
จนสามารถควบคุมตัวมาได้ทราบชื่อน.ส.คมคาย หรือบุ๋ม (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี เจ้าของเฟซบุ๊ค"บุ๋ม สตรอง" และน.ส.วาสนา หรืออิคคิว (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี เจ้าของเฟซบุ๊ค ชื่อ"นาย อิคคิว” จึงนำตัวมาสอบสวน
น.ส.คมคาย ให้การว่า ตนทั้งสองคนค้าขายสินค้าทุกอย่าง 20 บาท และตนก็เป็นคนลงทะเบียนผู้ที่มีผลกระทบโรคระบาfโควิด 19 เพื่อของเงินจากรัฐบาลให้แม่กับพี่สาวจริง แต่ยังไม่ได้เงิน
ส่วนน.ส.วาสนา ให้การว่า ที่ตนโพสต์ว่าได้เงิน 5,000 บาทนั้นเป็นเงินที่ลูกค้าโอนค่าสินค้ามาให้ ไม่ได้เกี่ยวกับเงินจากรัฐบาลแต่อย่างใด และที่โพสต์ไปนั้น ก็เป็นเพียงการล้อเล่นกับเพื่อนๆในเฟซบุ๊คเท่านั้น ตนจึงกราบขอโทษสังคมด้วย และที่ปิดเฟซบุ๊ค ก็เพราะมีคนเข้ามาด่าเยอะมากจนรับไม่ได้
จากเหตุการณ์ที่มีคู่รักโพสต์เรื่องเงินช่วยเหลือผู้มีผลกระทบโรคระบาดโควิดนั้น น.ส.คมคายได้ลงทะเบียนแทนแม่กับพี่สาว และน.ส.วาสนาได้โพสต์เรื่องเงิน 5,000 บาทนั้น ก็บอกว่าเป็นเงินของลูกค้าที่โอนมาให้ ไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาลเพียงแต่โพสต์ขำๆ และไม่มีเจตนาจะมาเสียดสีรัฐบาลเพียงแต่มีคนนำมาให้เป็นข่าว
พล.ต.ต.ชยุต กล่าวว่า ตนก็ขอฝากไปเตือนพ่อแม่พี่น้องที่คิดจะทำอะไรเช่นนี้ เสี่ยงต่อการถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย และช่วยกันอยู่บ้านเพื่อหยุดเชื้อโรคนี้ดีกว่า
“ส่วนเรื่องการดำเนินคดีนั้น หลังจากสอบปากคำแล้วก็ยังไม่เข้าข่ายกระทำความผิด ซึ่งทางผู้ที่โพสต์ ก็ได้สำนึกแล้วต่อไปคงไม่ทำอีก และเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดูไปว่าที่ผ่านมาทั้ง 2 คนมีการโพสต์เรื่องที่จะเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่”ผู้การปทุมธานกล่าว
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.in.th