สธ.เตรียมเปลี่ยนโรงแรมเป็นโรงพยาบาล รองรับผู้ป่วยโควิด19
สธ.เปลี่ยนโรงแรมเป็นโรงพยาบาลมีห้องพักกว่า 16,000 ห้อง เป็นสถานพยาบาลพิเศษ รองรับผู้ป่วยโควิด 19 ที่มีอาการเบา เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
วันที่ 2 เมษายน ที่ผ่านมา ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อม เปลี่ยนโรงแรมเป็นโรงพยาบาลสนาม (Hospitel) เพื่อเป็นการรองรับผู้ป่วยที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นและลดความแออัดในโรงพยาบาลจากสถานการณ์โรคโควิด 19 (COVID-19)
ดร.สาธิต ระบุว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมความพร้อมโรงแรมพิเศษสำหรับผู้ป่วยอาการเบา ที่ต้องผ่านการรักษาที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 7 วัน จึงจะถูกย้ายมารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลพิเศษ ซึ่งขณะนี้มีโรงแรมเข้าเกณฑ์ประมาณ 3 โรงแรม ที่สามารถรองรับผู้ป่วยโควิด 19 ได้จำนวนกว่า 800 ห้อง เบื้องต้น พบมีผู้ป่วยเข้ามาสังเกตอาการที่โรงแรมพิเศษทั้งหมด ประมาณ 60 คน
สำหรับเกณฑ์การคัดเลือกโรงแรมที่จะเข้ามาเป็นโรงพยาบาลพิเศษ มีดังนี้
- โรงแรมต้องมีห้องพัก 30 ห้องขึ้นไป
- มีใบประกอบธุรกิจอนุญาติโรงแรม
- พื้นห้องต้องไม่เป็นพรม
- มีระบบการจัดการระบายน้ำทิ้งสุขาภิบาลต้องไม่รั่วซึมและมีระบบการจัดการขยะติดเชื้อ
- ในโรงแรมต้องมีบุคลากรคอยอำนวยความสะดวกในทุกแผนก ผ่านการอบรมมาอย่างถูกต้อง
- มีกล้อง CCTV, ระบบความปลอดภัยพร้อมใช้งาน
- โครงสร้างอาคารและวิศวกรรม ต้องมีความปลอดภัยโครงสร้างสมบูรณ์ไม่แตกร้าว
- ห้องพักผู้ป่วยต้องเป็นห้องปรับอากาศแยกส่วนไม่เป็นระบบท่อส่งลมร่วมกัน
- มีความเพียบพร้อมของเครื่องมือ ทางการแพทย์ วัสดุ อุปกรณ์สำนักงานและอื่น ๆ
- จัดเตรียมยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลไว้ให้บริการอย่างเหมาะสม
ส่วนหลักเกณ์ของผู้ป่วยที่จะเข้ามารักษาตัวในโรงพยาบาลพิเศษ มีดังนี้
- ต้องเป็นคนไข้ที่นอนรักษาตัวในโรงพยาบาลมาแล้ว 7 วัน
- เป็นผู้ป่วยอาการเบา
- มีผลภาพถ่ายรังสีปอด (chest x-ray) คงที่
- ผู้ป่วยยินยอมที่จะมาสังเกตอาการที่สถานพยาบาลพิเศษ, สื่อสารได้รู้เรื่อง ดูแลตนเองได้ดี ไม่ก้าวร้าว, ไม่มีความเสี่ยงทางจิตเวช
- โรงพยาบาลเดิมต้องยินดีรับผู้ป่วยกลับหากมีอาการเพิ่มขึ้น
ขณะนี้ มีการจัดทีมแพทย์ไว้ดูแล จำนวน 3-5 คน ต่อผู้ป่วย 100 คน และในแต่ละห้องต้องมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ 2 ชิ้นคือ เครื่องวัดอุณหภูมิ และเครื่องวัดออกซิเจนที่ปลายนิ้ว นอกจากนี้ ทางทีมแพทย์จะมีการจัดตั้งไลน์เพื่อพูดคุยกับผู้ป่วยที่พักอยู่ในโรงพยาบาลพิเศษด้วย อย่างไรก็ตาม มีโรงแรมทั่วประเทศสมัครเข้าร่วมแล้ว 132 แห่ง อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติ คาดว่าจะขยายจำนวนห้องพักฟื้นผู้ป่วยและผู้เข้าข่ายเฝ้าระวังได้มากกว่า 16,000 ห้อง
ส่วนโรงแรมที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกคือ โรงแรมปริ๊นซ์ตัน และโรงแรมพาลาซโซ ได้ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน Hospitel ของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โดยโรงแรมปริ๊นซ์ตันมีจำนวน 270 ห้อง ขณะนี้รับผู้ป่วยพักฟื้นตามเกณฑ์ กรมการแพทย์ประมาณกว่า 50 คน อยู่ห้องแยกทุกคน และโรงแรมพาลาซโซอีก 439 ห้อง
ทั้งนี้ เมื่อโรงแรมผ่านการประเมินตนเองครบทุกข้อกำหนดในทุกหมวดแล้ว จะมีการจัดทำ Shopping List ให้โรงพยาบาลได้เลือกจับคู่กับโรงพยาบาลสนามที่มีระยะการเดินทางใกล้กัน เพื่อนำผู้ป่วย ที่ไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อยหลังจากเข้ารับการรักษาพยาบาลจากสถานพยาบาลเข้าพักฟื้น
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.in.th ที่มา : fm91bkk