สมุทรสาคร ออกจากบ้านไม่ใส่หน้ากากอนามัยจับปรับ 2 หมื่นบาท
วันที่ 1 เม.ย. 63 นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผวจ.สมุทรสาคร เผยว่า ด้วยจังหวัดสมุทรสาครยังคงมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยพบทั้งผู้ป่วยรายใหม่ที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลและผู้ที่ต้องเฝ้าระวังสังเกตอาการที่เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเพื่อให้การควบคุมโรคโควิด-19 ของจังหวัดสมุทรสาคร เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร จึงได้มีการประชุมร่วมกันเมื่อวันที่ 01 เมษายน 2563 โดยในที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ออกประกาศบังคับใช้เกี่ยวกับมาตรการสวมหน้ากากอนามัยแบบผ้า
"ก่อนออกจากบ้านทุกคนทุกครั้ง รวมถึงขณะที่อยู่ในยานพาหนะต่างๆด้วย ซึ่งหากใครไม่ปฏิบัติตามจะต้องถูกจับปรับไม่เกิน 20,000 บาท ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้ทุกคนนั้น ได้เฝ้าระวังตนเองและคนรอบข้างไม่ให้เชื้อโควิด-19 เข้าสู่ร่างกายหรือแพร่กระจายไปสู่บุคคลอื่น โดยน่าจะเป็นจังหวัดแรกๆ ของประเทศ ที่ออกมาตรการบังคับให้ประชาชนใช้หน้ากากอนามัย (แบบผ้า) 100 เปอร์เซ็นต์ ก่อนออกจากบ้าน"
นอกจากนี้ยังจะมีประกาศอื่นๆอีก อาทิ การปิดสถานที่ให้บริการ (เพิ่มเติม) เช่น สถานีบริการน้ำมัน (ปั๊มเชื้อเพลิง) เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 05.00 - 22.00 น. เป็นต้น ส่วนสถานที่สำคัญทางศาสนาก็ให้งดจัดกิจกรรมหรืองานประเพณี พิธีกรรมต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดการรวมตัวของพี่น้องประชาชนจำนวนมาก แต่ในส่วนกรณีของงานพิธีกรรมที่จำเป็นไม่ว่าจะเป็นงานศพ หรืองานบวชนั้น ก็ยังสามารถจัดได้ภายใต้มาตรการที่กำหนดและไม่ฝ่าฝืนกฎหมายที่บังคับใช้ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมถึงไม่ขัดต่อประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร
ผวจ.สมุทรสาคร กล่าวอีกว่า สำหรับประกาศที่จะออกมาเพิ่มเติมนั้น จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2563 เป็นต้นไป ถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 ส่วนประกาศเดิมที่เคยกำหนดไว้ว่ามีผลถึงวันที่ 12 เมษายนนั้น ก็จะขยายออกไปสิ้นสุดถึงวันที่ 30 เมษายนเช่นเดียวกัน ขณะที่เรื่องมาตรการอย่างเช่น ให้ผู้ขับรถจักรยานยนต์รับจ้างหยุด หรือการงดจำหน่ายสุรานั้น คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร ยังไม่มีมติเห็นชอบให้ออกมาบังคับใช้ ทั้งนี้จึงขอให้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสมุทรสาครปฏิบัติตามประกาศที่บังคับใช้อยู่แล้วอย่างเคร่งครัด เพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคโควิด-19 จังหวัดสมุทรสาครให้หมดสิ้นไป
ตอนนี้เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้ทุเลาลง จำเป็นต้องมีมาตรการต่างๆออกมาควบคุม ซึ่งประชาชนเองก็ควรจะให้ความร่วมมือ เพื่อจะได้ผ่านวิกฤตในครั้งนี้ไปได้
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.in.th