ถ้าบั้นปลายชีวิตไม่ได้อยู่ กทม.ควรเช่าหอหรือซื้อบ้านดี
เรียกได้ว่าเป็นประเด็นที่ชาวเน็ตให้ความสนใจเป้นจำนวนมาก และเป็นคำถามที่หนักอกหนักใจหลายคนเลยก็ว่าได้ เมื่อสาวตั้งกระทู้คำถามในพันทิปเล่าว่า..."ถ้าบั้นปลายชีวิตไม่ได้อยู่ กทม. ควรเช่าหอ หรือ ซื้อบ้าน หรือ คอนโด เป็นของตัวเองดี"
ตอนนี้อายุ 30 ปลายๆ ทำงานประจำเงินเดือน 3 หมื่น ไม่มี OT และโบนัส มีรถ 2 คัน ผ่อนรถหมดแล้ว มีเงินเก็บ 6 แสน
มีแฟนแต่ไม่มีลูก คาดว่าคงอยู่กัน 2 คน แฟนอาชีพรับจ้างรายได้ไม่แน่นอน ตั้งแต่ 9000-40000 บาท
เราคาดว่าจะทำงานถึงอายุ 60 ก็จะกลับต่างจังหวัด ซึ่งเรามีบ้านที่เป็นมรดกที่ต่างจังหวัดอยู่แล้ว
ตอนนี้คิดเสียดายเงินที่ต้องเสียค่าเช่าหออยู่ ค่าหอ 6000 บาท เพราะคงต้องทำงานอยู่กทม. อีกหลายสิบปี
จึงวางแผนว่าจะซื้อทาวเฮ้าส์ หรือ คอนโด ราคาไม่เกิน 2.5 ล้าน แต่ก็กังวลเพราะแก่ตัวไปแล้ว ก็กลับต่างจังหวัดอยู่ดี
บ้านที่ซื้อก็ไม่ได้อยู่ จะซื้อบ้านให้เป็นภาระทำไม ลูกก็ไม่มี ตอนนี้คิดวนแต่เรื่องนี้ในหัว สลัดไม่หลุดเลย
ต่อมาก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก
บ้านราคา2.5ล้าน ผ่อนเดือนละประมาณ17,000 - เช่าหอเดือนละ6,000 คุณจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม 11,000 ถ้าสมมุคิ คุณสามารถเก็บเงินได้เดือน 11,000บาท 30ปีหลังเกษียรคุณจะมีเงินเก็บ 3,960,000 บาท
แต่ถ้าผ่อนบ้าน 2,500,000 จ่ายจริงก็เกือบๆ5,000,000 ขาย30ปีต่อมาขายถ้าบ้านเดี่ยว(2,500,000ไม่ได้แน่ๆ)ราคาน่าจะเกิน5,000,000 ทาวเฮ้าส์ น่าจะได้ซัก3,000,000 คอนโดถ้าทำเลดีราคาอาจขึ้นถ้าทำเลไม่ดีราคาก็ดิ่งเป็นผมถ้าไม่คิดมีลูกคงเช่าหอและเก็บเงินต่อไปยิ่งถ้างานไม่มั่นคง ก็คงไม่ซื้อบ้าน
คนรู้จักได้ไปซื้อคอนโดต่อจากมือแรกมาเพราะโครงการสร้างเสร็จโอนแล้วก็ยังหาคนเช่าไม่ได้ ซือ้มาเพราะเห็นว่าได้ราคาถูก นี่จะเข้าปีที่สองแล้วก็ยังไม่มีคนเช่าเลยครับ เห็นคนในนั้นหลายห้องออกมาดั๊มราคาแข่งกันคนไหนขายขาดทุนมากที่สุดก็ได้ขายเร็วครับ มันก็เป็นวัฏจักรแบบนี้ไปเรื่อยๆ(เพราะคนต่อไปมาเห็นว่าทำไมขายถูกจังแต่ทำไมห้องใหม่เพราะยังหาคนเช่าไม่ได้เลย)*ค่าส่วนกลาง*> ไม่มีคนอยู่ ไม่มีคนเช่า ก็ต้องจ่ายไปตลอด ครับ
ไม่แนะนำให้ซื้อค่ะ
1. ค่าผ่อนน่าจะสูงกว่าค่าเช่านะคะถ้าคุณต้องการพักอาศัยในทำเลเดิม
2. ถ้าคุณผ่อนแบบไม่มีเงินก้อนใหญ่ๆมาโปะเลย ดอกเบี้ยที่คุณจ่ายทั้งหมดอาจจะเท่ายอดที่คุณกู้เลยค่ะ
3. นอกจากผ่อนแล้วคุณยังต้องจ่ายค่าส่วนกลางด้วย ดูจากรายรับของทั้งคู่แล้วเราเกรงว่าจะตึงเกินไปนะคะ
4. คุณมีแผนที่จะย้ายกลับไปต่างจังหวัดหลังเกษียณ ถ้าถึงตอนนั้น ห้องขายไม่ออก จะทำยังไงคะ
ซื้อบ้าน เสียดอกเบี้ยให้ธนาคารปีละ 5%
ถ้าไม่ได้โปะบ้าน ผ่อนตามระยะเวลา 20-30 ปี จะเสียค่าใช้จ่ายเกือบ 2 เท่าของราคาบ้าน
ซื้อบ้านใหม่ต้องมีค่าเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใข้ไฟฟ้า ต่อเติมครัว ผ้าม่าน หลังคา รวมๆ ไม่ต่ำกว่าสองแสน
เงินเดือนสามหมื่น ซื้อได้แต่ทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าส์ชานเมือง ราคา 2 ล้านต้นๆ ได้สังคมตามราคาบ้าน เจอเพื่อนบ้านแย่ๆ ต้องทนไป 20 ปี
หนี้ผ่อนบ้าน ทำให้ไม่กล้าทำอะไรที่เสี่ยง ต้องเป็นพนักงานบริษัทไปตลอดชีวิต
การเช่าบ้านเป็นอะไรที่ตรงข้ามกัน
ลองเขียนเหตุผลเป็นข้อๆ มาเปรียบเทียบกันครับ
เห็นหลายคนเช่าอยู่ด้วยเหตุผลหลังเกษียณจะกลับไปอยู่ตจว. แต่พอถามว่าอยู่มากี่ปีแล้วหลายคนเป็น10ปี และยังจะอยู่อีกนาน
เท่าที่เห็นวัยทำงานส่วนใหญ้อยู่เกิน10ปี บางคนอยู่จนเกษียณซึ่งหมายถึง 20-30ปี ผ่อนบ้าหมดหรือไม่ก็เกือบหมดแล้ว
ถามว่าระยะเวลาที่กทม.หมดเงินไปกับค่าเช่าเท่าไหร่ ถ้าเปลี่ยนค่าเช่าไปผ่อนบ้านเมื่อคุณเกษียณก็สามารถขายบ้านเอาเงินก้อนหรือให้คนอื่นเช่าต่อมีรายได้หลังเกษียนยังดีกว่าเช่าอยู่แบบทิ้งเงินไปเปล่าๆ
เพิ่มเติมจากคนใกล้ตัว ไปทำงานตจว.ไม่รู้จะอยู่นานหรือเปล่าแต่ก็ซื้อบ้าน สรุปอยู่แค่2ปี ย้ายกลับบ้าน ส่วนบ้านที่ซื้อก็ปล่อยให้เช่า เปลี่ยนคนเช่ามาหลายรายจนรายสุดขอซื้อเพราะไม่อยากเช่าอยู่ ซื้อบ้านมาราคา1.2ล้าน ผ่อนมา10ปีกว่าๆ แต่เงินที่ผ่อนส่วนใหญ่มาจากค่าเช่า ขายได้2.4ล้าน
ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับทั้งคู่ถ้าอยู่ต่ออีกยี่สิบกว่าปี แนะนำซื้อเลยถ้ามีกำลังไม่เดือดร้อนถือเป็นทรัพย์สินที่ยังสามารถขายได้กำไรดี พอจะย้ายไปอยู่ตจว.ก็ประกาศขายถือซะว่าเป็นโบนัสก้อนโตในบั้นปลายชีวิตอีกด้วย
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.in.th ขอขอบคุณที่มา : สมาชิกหมายเลข 1953608