กรมควบคุมโรค ยังคุมเข้ม ย้ำไม่หยุดคัดกรองนักท่องเที่ยวตามข่าว
จากที่มีกระแสข่าวแชร์ออกไปในโลกออนไลน์เรื่องที่ประเทศไทย หยุดคัดกรองผู้ป่วยจากไวรัสโคโรน่า ที่สนามบิน จนทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนกและกลัวเป็นอย่างมาก ซึ่ง นายแพทย์โรม บัวทอง เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำท่าอากาศยาน กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลจีนออกมาประกาศห้ามประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย สาธารณรัฐประชาชนจีนออกจากพื้นที่ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ของวันที่ 23 ม.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเร็วกว่าเวลาในไทยประมาณ 1 ชั่วโมง ทำให้ฝั่งกรมควบคุมโรคไม่ได้ติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิผู้โดยสาร บริเวณประตูทางเข้าอาคารสนามบิน สำหรับเที่ยวบินที่มาจากมณฑลหูเป่ย ณ สนามบินอีกต่อไป เนื่องจากไม่มีเที่ยวบินที่มีความเสี่ยงแล้ว
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานอยู่ระหว่างการปรึกษาว่าจะกลับมาติดตั้งในเที่ยวบินที่มีความเสี่ยงหรือไม่ พร้อมชี้ว่า กรมฯ ประเมินข้อมูลสถานการณ์เมืองที่มีความเสี่ยงตามประกาศขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO
นพ.โรม อธิบายเพิ่มเติมว่า การติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิ (Thermal Scan) จะทำกับเที่ยวบินที่มาจากแหล่งโรคระบาด ซึ่งในที่นี้คือ มณฑลหูเป่ย แต่ปัจจุบันเที่ยวบินตรงที่มาไทย มีเพียงจากเมืองอู่ฮั่นเท่านั้น เมืองอื่นๆ ในมลฑลหูเป่ยไม่มีเที่ยวบินตรงมาไทย จึงไม่จำเป็นต้องตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิตรงบริเวณประตูทางผ่านจากเครื่องบินมายังอาคารผู้โดยสาร แต่สามารถขอความร่วมมือจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ที่จะทราบที่มาของผู้โดยสาร หากมีผู้โดยสารที่มีประวัติการเดินทางมาจากมลฑลหูเป่ยให้ช่วยซักถามและสังเกตอาการทางกายภาพของผู้โดยสารให้แทน หากพบความเสี่ยง ก็สามารถส่งต่อให้กับทีมแพทย์ในสนามบินดำเนินการต่อ
ล่าสุดทางเพจกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องนี้ว่า
จากข่าวที่ปรากฏในสื่อบางสื่อ อาจทำให้ประชาชนสับสนได้ครับ ทางกรมขอยืนยันว่า นอกจากจะไม่หยุดทำการคัดกรองแล้ว พรุ่งนี้จะเริ่มการคัดกรองเที่ยวบินที่มาจากเมืองอื่นๆ ที่มีรายงานการระบาดอีกด้วย เช่น Guangzhou เป็นต้น
ทั้งนี้ก็อยากจะฝากให้ประชาชน เฝ้าระวัง สวมใส่หน้ากากอนามัย เวลาทานข้าวร่วมกับผู้อื่นควรใช้ช้อนกลาง และปรุงสุกที่สำคัญหมั่นล้างมือบ่อยๆด้วย หากมีเรื่องที่ต้องพบะกับคนจีนควรเฝ้าระวังขึ้นกว่าเดิมด้วยนะคะ
ขอขอบคุณที่มาจาก : voicetv.co.th , กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข