หนุ่มตัดพ้อคนตกงานล้น บริษัทรับคนยากขึ้น น.ศ.จบมาไม่มีงานทำ
ในยุคปัจจุบันที่การหางานมีความยากลำบากมากขึ้น บริษัทรับคนยากขึ้นเป็นเท่าตัว นักศึกษาจบมาไม่มีงานทำ หางานยากขึ้นอย่างชัดเจน จนหลายๆคนอาจจะเกิดอาการท้อ ... เช่น หนุ่มรายนี้ ได้ตั้งกระทู้ตัดพ้อ หัวข้อระบุว่า
"ช่วงนี้คนตกงานเยอะครับ บริษัทรับคนยากขึ้นเป็นเท่าตัวหรอครับ"
ช่วงนี้คนตกงานเยอะครับ บริษัทรับคนยากขึ้นเป็นเท่าตัวหรอครับเดี๋ยวนี้เห็นมีแต่ข่าวคนตกงาน โรงงานปิด นักศึกษาจบมาไม่มีงานทำ มหาลัยไม่มีงานรองรับ
แต่ก่อนเด็กจะลงเรียนก็บอกเขาว่าเรียนจบมาแล้วมีงานทำแน่นอนแต่ความจริงคือเรียนจบแล้วคุณก็ต้องหางานทำเอง หรือต้องเป็นออกมาค้าขายเป็นเจ้านายตัวเองกันหมดแล้วแบบนี้ประเทศจะเป็นยังไงต่อไปครับ จะเกิดความเหลื่อมล้ำทางสังคมมั้ยข้าวของเครื่องใช้ก็แพง ขึ้นภาษีเอาๆ หัวเมืองตามต่างจังหวัดซบเซากว่าที่เคยเป็นมา
ข้าราชการก็เปิดรับน้อยลง จะเปลี่ยนเป็นระบบพนักงานราชการแทนอีก แล้วแบบนี้คนที่มีความมันจะเป็นข้าราชการก็คงลดน้อยลงไปด้วย เลิศเนอะ
ต่อมาชาวเน็ตต่างก็ได้มาแสดงความคิดเห็นพร้อมให้คำแนะว่ากับเจ้าของกระทู้ เช่น
รับคนยากสิ บางที่เอาแต่คนออก ไม่เอาคนเข้าคนน้อยลงก็แบกงานกันไป ไอการไม่เลือกงานไม่อดมันก็จริงแต่คนจบมา ใครมันจะอยากทำงานที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า และประสบการณ์ไม่ตรงกับสายงานตัวเอง นอกจากเรียนแล้วรู้ตัวว่าไม่ชอบทำไปกี่ปี ๆ ตอนไปสมัครงานใหม่ ก็นับประสบการณ์ 0 อยู่ดี
แต่ทำไงได้ สังคมบ้านเราให้ค่าแต่ใบปริญญา จบตรีกันมาล้นเป็นแสนคนทุกปี แต่สายอาชีพกลับแทบไม่มีก็ต้องแย่งกันหนักหน่อย
บริษัทรับคนยากขึ้นจริง ทำให้การแข่งขันมากขึ้น คือ ในบรรดาผู้สมัครที่เข้าสัมภาษณ์ในตำแหน่งงานเดียวกัน บริษัทจะเลือกคนที่มีความสามารถมากที่สุด ทำได้หลายหน้าที่มากกว่า ผู้สมัครงานสมัยนี้ นอกจากมีความรู้ความสามารถในปริญญาที่จบมา จะต้องมีความสามารถอื่นประกอบด้วย จึงจะเหนือกว่าผู้สมัครคนอื่น เช่น ภาษาอังกฤษที่ดีกว่า เป็นต้น
ช่วงหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา รัฐสนับสนุนให้เยาวชนเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งหมายความว่า รัฐต้องการให้เยาวชนได้ทำงานแบบแรงงานใช้ทักษะ (skilled labour) เพื่อผลักดันให้คนไทยส่วนมากสามารถขยับฐานะตนเองไปเป็นชนชั้นกลาง และเพื่อให้ประเทศไทยก้าวพ้นจากกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง
การผลักให้เด็กจบใหม่ไปทำงานเสิร์ฟอาหาร ล้างจาน หรือเป็นพนักงานโรงงาน ตามแนวคิดที่ว่า อย่าเลือกงาน เท่ากับเป็นการใช้ทรัพยากรมนุษย์อย่างไร้ค่าและสูญเปล่า
หน้าที่ของเยาวชน คือ ตั้งใจเรียนให้เต็มที่ ให้เชี่ยวชาญในสาขาของตน เมื่อเขาเรียนจบมาแล้ว ถือว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องบริหารเศรษฐกิจของประเทศให้มีตำแหน่งงานที่เหมาะสมกับทักษะและความสามารถของประชากรด้วย ต้องมีตำแหน่งงานที่จะสามารถทำให้ประชากรสามารถพัฒนาทักษะของตนเองเพื่อขยับรายได้และฐานะไปสู่จุดที่ดีกว่า รัฐที่ทำหน้าที่นี้ไม่ได้ ผมถือว่าล้มเหลว และไม่สมควรได้รับความไว้วางใจให้บริหารประเทศต่อไป
นับว่าเป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่ ทำให้ชาวเน็ตให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก เพราะเชื่อว่าหลายคนในตอนนี้กำลังตกงานอยู่ อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่ตกงานก็ต้องหมั่นพยายามหาความรู้ใหม่ๆ และเลือกงานตามความถนัดของตัวเอง ค้นหาตัวเองให้เจอแล้วคุณอาจจะได้งานภายในไม่ช้า เป็นกำลังใจให้สู้กันต่อไป
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.in.th ขอขอบคุณที่มา : สมาชิกหมายเลข 4999428