จากชีวิตที่เคยมีเงินเก็บ 2 ล้าน สู่วันที่ไม่เหลืออะไรเลย
คุณ สมาชิกหมายเลข 2565447 สมาชิกเว็บไซต์พันทิป ได้ออกมาโพสต์เล่าเรื่องราวในชีวิต จากคนที่มีเงินเก็บ 2 ล้านไม่มีภาระหนี้สินอะไร สู่คนที่ไม่เหลืออะไร โดยจากโพสต์นั้นได้ระบุว่า 'จากเงินเก็บสองล้านสู่วันที่ไม่เหลืออะไร'
สวัสดีครับ ผมอยากจะเล่าเรื่องราวชีวิตผมให้ฟัง ให้กระชับที่สุด ผมออกมาทำงานฟรีแลนซ์มา3-4ปี เริ่มทำงาน เก็บเงิน ใช้หนี้ให้ที่บ้านทั้งหมด จนมีเงินเก็บหลักล้าน เมื่อปลายปี 2561 เกิดเหตุการณ์พลิกผันในชีวิต ยายผมอายุ 74 ปี ได้ป่วย เริ่มต้นจากเบาหวาน ไปถึงโรคหัวใจ ลิ่มเลือดในสมอง หนักสุดถึงขั้นต้องช็อตไฟฟ้ากลับมา ช่วงนั้นผมพายายรักษาตั้งแต่ รพ รัฐ จนมาถึง รพ เอกชน แห่งนึง ซึ่งยอมรับและรู้ครับว่าแพง แต่แนวทางการรักษาและคำแนะนำคือดีมากครับ ถึงรู้ว่าแพง แต่ผมตัดสินใจให้ยายรักษาที่นี่
ตอนนั้นผมมีเงินเก็บสองล้าน ผมเลยให้ยายเข้า รพ เอกชน ซึ่งก็รักษาตามแผน สุดท้ายยายอาการหนัก ต้องได้สวนหัวใจและนอนห้องไอซียู ค่ารักษาแพงขึ้นทุกวัน ยายก็ต้องใช้ท่อช่วยหายใจ คุณหมอบอกกับผมว่า ยายยังมีโอกาสหาย ถ้าไม่มีโอกาสหมอจะไม่ให้ยื้อ เพื่อไม่ให้สิ้นเปลือง ผมตัดสินใจรักษายายต่อ ยายต้องนอน รพ สองเดือนกว่า ให้อาหารทางสายยางเกือบเดือน และสุดท้ายค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดคือ 1.8 ล้าน ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นในช่วงเวลาที่ต้องไปกลับ รพ ตลอด
ใช่ครับ เงินผมหมด แต่ผมได้ยายกลับคืนมา ยายคนที่ดูแลผม เลี้ยงผมมาตั้งแต่เด็ก วันนี้ยายหาย กลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ เดินเหินปกติ แต่สิ่งที่แกไม่รู้คือ ผมแทบไม่เหลืออะไรเลย ผมบอกกับแกไปว่าหมดไปแสนกว่าบาทเองยาย เงินทั้งหมดที่หามาหมดไปกับการแลกชีวิตยายคืน ถามว่ามันคุ้มมั้ย สำหรับผมก็คุ้ม เพราะผมยังไม่ได้บวช ผมอยากให้ยายได้อยู่จนถึงวันผมบวช
แต่ทางกลับกันชีวิตหลังจากยายหาย เหนื่อยมากครับ ต้องทำงานหนักขึ้น ชักหน้าไม่ถึงหลัง ยืมหนี้ยืมสิน บางทีก็รู้สึกท้อ เหนื่อย ได้แต่ภาวนาและคิดเสมอว่า วันนึงสิ่งที่เราทำไป มันจะกลับคืนมา เหมือนที่ยายบอกเสมอว่ามันจะกลับคืนมาหาหลายเท่า อยากบอกยายกลับเหลือเกิน ว่าให้กลับมาตอนนี้เลยได้มั้ยยาย ผมเหนื่อยเหลือเกิน เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ ทำอะไรไป ผมยังเชื่อว่าวันนึงมันจะกลับมา แล้ววันนึงผมจะกลับมาเขียนต่อว่าผมหามันคืนได้แล้ว
จากความคิดเห็น
ไม่ควรฝืนรักษาในโรงพยาบาลเอกชน
สู้ใหม่ เดี๋ยวก็ได้กลับมา
เงินทองหาใหม่ได้
สามารถกู้ตัวเองกลับมาได้
มีคนแนะนำ รักษาโรงพยาบาลรัฐ
อย่าไปคิดเสียดาย
วันนี้เหนื่อย แต่ภูมิใจ
คล้ายๆเหตุการณ์ที่เกิดกับผม
สำหรับกระทู้นี้ก็มีชาวเน็ตหลายท่านเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมให้กำลังใจ เจ้าของกระทู้ ที่แม้วันนี้จะเหนื่อยหน่อย แต่เชื่อว่าเป็นความเหนื่อยที่แสนภูมิใจ ยังไงก็สู้ใหม่นะคะ สักวันเราจะได้กล้บมาแน่นอน
ขอขอบคุณที่มาจาก : สมาชิกหมายเลข 2565447