แม่พาลูกสาวเดินห้าง เจอชายแปลกหน้าตีเนียนดึงแขนลักพาตัว
เวลาลูกไปเดินห้างสรรพสินค้าอย่าคิดว่าปลอดภัย ซึ่งคนร้ายมักอาศัยจังหวะที่ผู้ปกครองเผลอ ลงมือลักพาตัวเด็ก และเรื่องราวนี้หากไม่เกิดขึ้นกับตัวเอง จะไม่มีวันเข้าใจ ว่าถ้าหากต้องสูญเสียลูกไปจริงๆ จะต้องเสียใจขนาดไหน
โดยคุณ "วีณา จางค์" แชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับแก๊งลักพาตัวเด็ก เล่าว่า... จะอยู่อย่างไร...ถ้าชีวิตนี้ไม่มีลูก...เตือนภัยค่ะ!!!! อ่านให้จบนะคะ
ปกติปุ้ยดูคลิป อ่านข่าว เกี่ยวกับลักขโมยเด็กมาก็เยอะ บางคลิปดูแล้วก็คิดว่า...
- คนอยู่ตั้งเยอะทำไมคนร้ายเอาเด็กไปได้
- อยู่กับแม่แท้ๆ แต่คนร้ายก็ยังสามารถเอาเด็กไปได้บางทีดูไปสลดไป...
วันนี้รู้สึกโดนกับตัว ลักษณะเหมือนกับที่เคยดูๆ เคยอ่านๆ มาเลย เหตุเกิดที่ห้างดังกลางใจเมือง ระหว่างรอแฟนไปซ่อมคอมพิวเตอร์ที่ห้างดัง แม่กับลูกก็หาที่เดินเล่นรอ เลยลงไปดูของที่ชั้น 1 กับลูกเดินเลือกเสื้อผ้า ดูของไปมานานพอควร ซื้อเสื้อผ้าเสร็จเดินมาดูโซนรองเท้าๆ ขณะลูกสาวเลือกรองเท้า แบบโน้นแบบนี้ เบอร์โน้นเบอร์นี้แม่นั่งยองๆ...ลองให้ลูกสาว 6 ขวบ...ขณะลูกสาวก้มดูรองเท้า
มีผู้ชายคนหนึ่ง ตัวใหญ่ สูงประมาณ 170 แต่งตัวดี ใส่ยีนส์ เสื้อแจ๊คเกต ใส่หมวกแก๊ปปีกกว้าง ผิวขาว หน้าเหมือนชาวจีน เดินเข้ามาด้านหลังอย่างเร็ว จับแขนลูกสาวแบบแน่นพร้อมกับพูดว่า...."เอ้า ตอนนี้อยู่ ป. อะไรแล้ว เท้าเล็กมาลองเบอร์ทางนี้" ทำเหมือนว่า ดูทีท่าว่าแม่เผลอรึเปล่า เหมือนน่าจะทำท่าว่าจะพาไปเดินลองรองเท้าอีกจุดหนึ่งซึ่งอยู้ใกล้ๆกัน
ระหว่างที่คนร้ายพูดยังไม่จบ...แม่ลุกตั้งแต่เห็นมาจับแขน ดึงลูกสาวมาหาตัว พูดแทรกกับประโยคที่คนร้ายคนนั้นพูดอยู่...แม่ก็ตะโกนให้ดังที่สุดประหนึ่งให้คนทั้งห้างได้ยิน "เฮ้ย มีสิทธิ์อะไรมาจับแขนลูกชั้น ไม่รู้จักกัน ไปไกลๆ เลยนะ"
คนขายของแถวนั้นตื่นตัว คนขายของข้างๆ ลุกขึ้นคนร้าย...."หัวเราะเบาๆ" ทำเนียนๆ เดินไปจับรองเท้าคู่นึงแม่รีบแบบจูงแบบลากอย่างเร็วออกไปยืนกับกลุ่มคนเยอะๆ กำลังจะโทรหาพ่อ....พ่อมาถึงพอดี รีบแจ้ง รปภ. ห้าง....รปภ. วอ.5 ทุกจุด ให้ค้นหาตัวคนร้าย วิ่งวุ่นกันทั้งห้าง แต่คนร้ายหายไปอย่างเร็ว
สันนิษฐาน(เอง)จากการกระทำ
1. คนร้ายจะจ้องกระทำกับเด็กที่มากะแม่แค่สองคน
2. คำพูด "อ่าว ตอนนี้อยู่ ป. อะไรแล้ว" เพื่อตีสนิท และเพื่อให้คนที่ได้ยินคิดว่ารู้จักกันแล้วมาเจอกันโดยบังเอิญ และดูทีท่าว่าแม่จะคุยโต้ตอบไหม
3. คนร้ายจับแขน และบอกให้ไปลองรองเท้าอีกเบอร์ เพื่อเขยิบให้เด็กออกห่างแม่ไปเรื่อยๆ
4. ถ้าแม่เผลอ คนร้ายจะได้อุ้มเด็กหรือหลอกล่อไปอย่างง่ายๆ
5. ถ้าเป็นห้าง คนร้ายมักก่อเหตุ ใกล้ประตูทางออก เพื่อง่ายต่อการออกจากที่เกิดเหตุ
6. แม้ในห้างจะดูว่าปลอดภัย แต่คิดในทางของคนร้ายเขาก็อาจมองว่าเป็นสถานที่ที่พ่อแม่ปล่อยลูก และมีความระวังตัวน้อยกว่าข้างนอก
คำเตือน
1. คนไม่รู้จักมาจับแขน จับมือลูกเรา ขออุ้ม อย่าคิดว่าเขาเอ็นดู คิดแง่ลบไว้ก่อนได้เลย คนเสียลูกเพราะคิดบวกกับคนร้ายมาเยอะแล้ว เหตุเพราะไม่รู้ว่าเป็นคนร้าย คนอื่นเจอลูกเราครั้งแรกมีสิทธิ์เอ็นดูแค่พูดชื่นชม แต่ไม่ควรจับเนื้อจับตัวเด็ก ยิ่งเป็นผู้ชายยิ่งไม่ควรกระทำ
2. อย่าเล่นโทรศัพท์เด็ดขาดเวลาเดินกับลูก
3. อย่าคิดว่าในที่ที่มีคนเยอะ หรือในห้าง จะปลอดภัย
4. เดินจับมือลูกตลอด ห้ามปล่อยให้เดินตามหลัง
5. สอนลูกให้รู้จักการเอาตัวรอด การสะบัดหนี การวิ่งหนี การใช้เสียงตะโกนในเวลาเกิดเหตุ เด็กหลายคนจะไม่กล้า ด้วยจิตใต้สำนึกเด็กคือ การเกรงใจผู้ใหญ่ ไม่กล้าสะบัดหนี...และเด็กอาจคิดไม่ทันว่านั่นคือคนร้าย ไม่มีความเกรงใจให้ในหมู่โจรค่ะ
เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดกับคนร้ายใช้เวลาไม่ถึง 30 วินาที ถ้าเศษวินาทีนี้ แม่แพ้ภัยแพ้ทางคนร้าย คงเป็น เศษวินาทีที่จะทำให้เสียใจไปตลอดชีวิต
ถ้าจับตัวคนร้ายได้ แล้วตำรวจสืบว่าไม่ใช่คนร้ายลักพาตัวเด็ก หรือไม่มีมูลว่ามีประวัติลักพาตัวเด็ก ก็จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด.......
ถ้ามีคนพูดว่า เว่อร์ไปป่าว คิดมากไปป่าว เค้าอาจจะไม่ใช่คนร้าย ตอบเลยว่า... สัญชาตญาณความเป็นแม่ของเราถือว่าถ้าการกระทำแบบนี้คือคนร้ายเพราะคนเป็นแม่มีสิทธิปกป้องลูกจากอันตรายก่อนเกิดเหตุ ไม่ใช่รอให้เกิดเหตุแล้วค่อยร้องขอความเป็นธรรม
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.in.th ขอขอบคุณที่มา : วีณา จางค์