เงินที่เกิดขึ้นจากการงดใช้ถุงพลาสติก หายไปอยู่ไหน
โดยสมาชิกพันทิปหมายเลข 5621230 ตั้งกระทู้คำถามเล่าว่า "เงินที่เกิดขึ้นจากการงดใช้ถุงพลาสติกหายไปอยู่ที่ไหนครับ" ทุกวันนี้รณรงค์จากภาคเอกชนให้งดใช้ถุงพลาสติก ผมยืนดูหน้าจอคิดตังค์ร้านสะดวกซื้อแห่งนึงลดไปได้ 82 ล้านใบแล้ว
ตีใบละ 1 สตางค์ เท่ากับทางร้านประหยัดไปได้ 8 ล้านกว่าบาทเงินจำนวนนี้หายไปไหนครับ ได้กลับคืนสู่ผู้บริโภคหรือสังคมบ้างมั้ยครับ
ต่อมาก็มีสมาชิกชาวพันทิปหมายเลข 4079340 เข้ามาคลายข้อสงสัยเล่าว่า..
1. เงินส่วนนั้นคือต้นทุนที่ลดลง แปลว่ากำไรเพิ่มขึ้น (ส่วนเอาไปตอบแทนสังคมมากน้อยก็ว่ากันไป ได้หน้า+กำไรเพิ่ม)
2. เป็นแค่เพียง MOU คือการขอความร่วมมือ ยังไม่ถึงขนาดออกเป็นกฎหมายบังคับ
(ไม่มีผลในทางกฎหมายหากใครไม่ทำ แต่มีรอยยิ้มอยู่เบื้องหลังเพราะวินๆทุกฝ่ายทั้งคนออกหัวคิดทั้งโมเดิร์นเทรดและสะดวกซื้อ)
3. ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมจริงหรือไม่ (จริงใจ?) ถ้า
3.1 บรรจุภัณฑ์แทบทุกชนิดมีแต่พลาสติก ห่อในห่อไม่รู้กี่ชั้น คิดจะเปลี่ยนไปใช้วัสดุทดแทนหรือไม่?
3.2 ถุงใส่สินค้าพวกเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ ยังใช้อยู่ คิดจะเปลี่ยน?
3.3 ใครไม่มีถุงผ้ามาใส่ มีจำหน่ายในราคาใบละ 2 บาท 3 บาท ?
การลดและเลิกใช้เป็นแนวคิดที่ดี แต่ควรทำอย่างจริงจังและจริงใจ รวมมือกันทุกฝ่ายมิใช่การเอาง่ายเข้าว่าโดยผลักภาระให้ประชาชน
* แก้ไขเพิ่มเติม ผมว่างละ ขอมาต่อประเด็นอีกนิด
นอกจากมุ่งประเด็นเรื่องการลดใช้ถุงพลาสติกแล้ว ควรมีมาตรการอื่นมารณรงค์หรือบังคับใช้แบบเป็นรูปธรรมเพิ่มด้วย เช่น
- ออกกฎหมายบังคับใช้เอาผิดคนที่ทิ้งขยะเรี่ยราด ทำให้เกิดขยะที่ไหลลงทะเลจำนวนมาก(ปัญหาหลักคือตรงนี้)
- คัดแยกขยะ กำจัดให้ถูกวิธี ขยะแต่ละแบบกำจัดไม่เหมือนกัน และต้องช่วยกัน
- ให้พวกสะดวกซื้อ โมเดิร์นเทรดหาวัสดุทดแทนมาใช้พวกถุงกระดาษ หรือพลาสติกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยไม่เป็นภาระผู้บริโภค
(กล้าป่ะ)
- เก็บภาษีพวกบรรจุภัณฑ์พลาสติกใช้ครั้งเดียวเพิ่ม(งานถนัด) ลดหย่อนภาษีให้พวก Eco-Design
- หาเตาเผาขยะแบบ non dioxin มาใช้ และ operate จริงไม่ใช้ตั้งไว้เฉยๆ ภาระค่าใช้จ่ายให้ไปเก็บเอากับผู้ผลิตและผู้ทิ้ง (หลักการ PPP:Polluter Pay Principles) ได้ประโยชน์กว่าเรือดำน้ำ รถถัง ฯ เพราะไม่ได้ใช้แค่วันเด็ก
ถือว่าช่วยๆกันคนละไม้ละมือ ทิ้งขยะให้เป็นที่ (ยังมีอยู่มั๊ยคนที่ทิ้งเรี่ยราด) แยกขยะ คิดเสียว่า เงินกลับไปช่วยสิ่งแวดล้อม ช่วยให้สัตว์ต่างๆ ไม่กินถุงพลาสติก และตัวเราไม่รักสบายมากเกินไป เตรียมถุงไว้ติดตัว มีแต่ไม่ได้ใช้ ดีกว่า จะใช้แล้วไม่มี ถ้าลดการใช้ถุงพลาสติก แล้วลดราคาสินค้าให้ด้วย น่าจะได้รับความร่วมมือมากกว่านี้ เพราะเหมือนการช่วยกันทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภค
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.in.th ขอขอบคุณที่มา : สมาชิกหมายเลข 5621230,สมาชิกหมายเลข 4079340