หนุ่มปล่อยฟันผุเรื้อรัง สุดท้ายติดเชื้อรุนแรง เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต
![](https://kaijeaw.in.th/wp-content/themes/kaijeaw-04/images/no-img.jpg)
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่เป็นอุทาหรณ์แก่คนที่ไม่ค่อยใส่ใจกับสุขภาพช่องปาก ซึ่งหลายคนมองข้ามอาการฟันผุ หรือปัญหาสุขภาพเล็กๆน้อยๆในช่องปาก แต่มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ตามมาได้ อย่างเช่น หนุ่มใหญ่รายหนึ่ง ที่ปล่อยฟันผุเรื้อรัง จนเกิดติดเชื้อรุนแรง ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว
นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผอ.รพ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้โพสต์ภาพผ่านเฟซบุ๊ก Arak Wongworachat พร้อมเรื่องเตือนภัยสุขภาพ ว่า
"ฝีหนองเนื้อเยื่อใต้คางจากฟันผุเรื้อรัง โรค Ludwig's angina หายใจติดขัดต้องเจาะคอช่วยหายใจ เหตุจากโรคฟันผุเหงือกอักเสบเรื้อรัง ฟันผุอย่านิ่งนอนใจ
เหตุจากฟันผุ ทำให้ติดเชื้อรุนแรงจนลิ้นคับปากดันปิดทางเดินหายใจ เสี่ยงเสียชีวิตหากรักษาไม่ทันท่วงที
ผู้ป่วยชายอายุ40ปี ฟันกรามผุเรื้อรังมานาน ไม่สนใจไปรักษา ปวดหาย ซื้อยาร้านยามากินเอง 7วันก่อนมาโรงพยาบาล มีไข้ ปวดฟันกรามมากซื้อพลาสเตอร์ปิดลดปวดที่แก้ม เริ่มปวด บวมแดงร้อน ที่คาง ลามไปรอบคอด้านหน้า
หน้าอกตอนบนอย่างรวดเร็ว ลิ้นจุกคับปาก กลืนน้ำลาย น้ำ อาหารไม่ลง อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ปวดเมื่อยตามตัวไปหมด 1วันก่อนมาโรงพยาบาล ไข้หนาวสั่นมาก หายใจติดขัด จึงรีบมาโรงพยาบาล เข้าห้องฉุกเฉิน แพทย์อีอาร์ รีบให้สารน้ำแก้ภาวะขาดน้ำ งดน้ำ และอาหาร ช่วยหายใจ ให้ออกซิเจนทางจมูกพอหายใจเองได้เล็กน้อย ออกซิเจนในเลือดต่ำลง ให้ยาต้านเชื้อทางเส้นเลือด
รีบส่งห้องผ่าตัดปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหูคอจมูกเป็นการด่วน ลำดับแรกที่แพทย์ ทีมงานต้องทำคือการเจาะคอแบบฉุกเฉิน ช่วยหายใจให้ได้ก่อนเป็นการเร่งด่วน แล้วให้ยาสลบ ตามมาด้วยการผ่าฝีหนองออกเพื่อลดอาการบวม ได้หนองประมาณ150ซีซี
หนองขังอยู่ในโพรงใต้คางและดันเข้าไปโพรงใต้ลิ้น ยกลิ้นขึ้นมาจนปิดช่องปาก ผู้ป่วยหลังผ่าตัดต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ เข้ารักษาในห้องไอซียู 5วัน จึงเอาเครื่องออกได้ แต่ยังคงต้องคาท่อที่เจาะคอช่วยหายใจเอาไว้จนกว่าจะยุบบวมหมด หลังจากนั้นค่อยส่งพบหมอฟันมาจัดการเรื่องต้นเหตุฟันผุกันต่อ
วิทยาทาน โรคนี้ปัจจุบันเจอได้น้อย แต่รุนแรงมาก @@Ludwig's angina ได้ถูกเรียกชื่อตาม Wilhelm Frederick von Ludwig ในปีค.ศ.1836 หมายถึง การอักเสบติดเชื้อของชั้นเนื้อเยื่อในโพรงใต้คาง (Submandibular space) เป็นภาวะที่พบได้น้อยมากในปัจจุบันเนื่องจากมีการพัฒนาของยาต้านจุลชีพ
โดยอัตราการเสียชีวิตลดลงจาก 50 เปอร์เซ็นต์ ในปีค.ศ.1940 ก่อนที่จะมีการใช้ยาต้านจุลชีพในการรักษาการติดเชื้อที่เหงือกและฟัน(odontogenic infection) เหลือเพียง 10 เปอร์เซ็นต์หลังจากมีการใช้ยาต้านจุลชีพ โดยภาวะนี้มักพบในผู้ใหญ่มาก"
ปัญหาสุขภาพช่องปาก ที่เรามองว่าเป็นเรื่องเล็ก แต่มันสามารถสร้างอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ใครที่มีฟันผุอยู่ ก็อย่ามองว่าไม่เป็นอันตรายกันนะจ๊ะ รับรักษาด่วนเลย
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.in.th, ขอขบคุณที่มาจาก :