25 อาชีพลงทุนไม่เกิน 3 พันบาทเปิดร้านได้
ในยุคนี้สำหรับคนที่หาช่องทางทำธุรกิจ บางครั้งแทบไม่ต้องใช้เงินลงทุน เริ่มต้นธุรกิจเยอะก็ได้ เผื่อใครที่กำลังอยากจะหารายได้เสริมหลังเลิกงาน หรือทำเป็นธุรกิจส่วนตัวเป็นนายของตัวเอง วันนี้ kaijeaw.in.th จะพาเพื่อนๆ มารู้จักกับ 25 อาชีพที่ลงทุนน้อย ไม่เกิน 3,000 บาท ก็เปิดร้านได้เลย
1.ลงทุนขายเครปญี่ปุ่น มีเงิน 3,000 บาท ลงทุนขายเครปญี่ปุ่นให้ประสบความสำเร็จ 1.หาแหล่งซื้อวัตถุดิบที่ดี ราคาถูก 2.เรียนรู้การทำเครปญี่ปุ่น 3.ศึกษาตลาด และความต้องการของลูกค้า 4.หาทำเลค้าขายที่ดี เช่น หน้าโรงเรียน/โรงงาน/บริษัท/หอพักทั่วไป เป็นต้น
2.ลงทุนขายผลไม้ มีเงิน 3,000 บาท ลงทุนขายผลไม้ ให้ประสบความสำเร็จ 1.หาแหล่งรับซื้อผลไม้แบบราคาส่ง เช่น รับซื้อถึงสวนผลไม้ 2.ศึกษาตลาด และกลุ่มเป้าหมาย 3.หาทำเลที่ตั้งขาย เช่น ตลาดนัด/หน้าโรงงาน/หน้าหอพักทั่วไป/หน้าหมู่บ้าน เป็นต้น
3.ลงทุนขายน้ำปั่นผลไม้เพื่อสุขภาพ มีเงิน 3,000 บาท ลงทุนขายน้ำปั่นผลไม้เพื่อสุขภาพให้ประสบความสำเร็จ 1.หาแหล่งซื้อวัตถุดิบที่ดี 2.เรียนรู้การทำน้ำผลไม้ปั่น 3.ศึกษาตลาด และความต้องการของลูกค้า 4.หาแหล่งขายสินค้า เช่น ตลาดนัด/หน้าโรงเรียน/มหาวิทยาลัย/หอพักนักศึกษา เป็นต้น
4.ลงทุนขายน้ำแข็งใส มีเงิน 3,000 บาทลงทุนขายน้ำแข็งใสให้ประสบความสำเร็จ 1.มีแหล่งซื้อวัตถุดิบที่ดี ราคาถูก 2.ศึกษาตลาด 3.หาแหล่งขายสินค้าที่อยู่ในย่านชุมชน หรือที่มีคนพลุกพล่าน 4.มีท็อปปิ้งหลายอย่าง
5.ลงทุนขายข้าวกล่อง มีเงิน 3,000 บาท ลงทุนขายข้าวกล่องให้ประสบความสำเร็จ 1.มีความรู้เรื่องการทำเมนูอาหารที่อร่อย 2.สินค้าต้องสะอาด ปลอดภัยต่อสุขภาพ 3.ศึกษาตลาด และความต้องการของลูกค้า 4.มีแหล่งตลาดซื้อสินค้า/วัตถุดิบ 5.มีแหล่งขายสินค้า เช่น หน้าโรงงาน/บริษัท เป็นต้น
6. ลูกชิ้นทอด เป็นอาชีพที่ทำง่าย เริ่มต้นง่าย แต่ก็มีคนทำเยอะเหมือนกัน แต่ว่านะแม้จะมีคนขายเยอะแต่ถ้าได้ทำเลดี ๆ เจอคนเยอะ ๆ โอกาสที่จะขายได้ก็เยอะตามเพราะว่าเป็นอาหารที่ทานง่าย ซื้อง่าย ขายคล่องตลอด อุปกรณ์ก็ไม่เยอะ หาโต๊ะสักตัว หม้อทอดสักใบ และทำเลดี ๆ หรือจะเป็นตลาดนัดก็ได้เปิดร้านเลย ลองคิดแบบคร่าว ๆ นะ ซื้อลูกชิ้นมา 1,500 บาท นำมาเสียบไม้ 4 – 5 ลูก/ไม้ ซื้อเครื่องปรุงน้ำจิ้ม 500 พร้อมกับถุงสำหรับลูกชิ้น 200 รวม ๆ รายจ่ายก็ประมาณ 2,500 บาท แล้วก็เอามาขายไม้ละ 5 บาท หากขายสัก 500 ไม้ก็ได้ทุนคืนแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับคนขายล่ะ ว่าจะสามารถหาทำเลและทำอะไรเพื่อเรียกลูกค้าได้ไหม
7. ข้าวไข่เจียว จัดหาทำเลให้ดีหน่อยก็จะดีนะ หรือในเขตที่คนเยอะ ๆ เช่น คนตื่นเช้ารีบไปทำงาน นักเรียน หรือทำอื่นๆ ที่มองว่ากลุ่มลูกค้าจะเยอะ ส่วนการลงทุนนะหาโต๊ะมาสัก 1 ตัว เตาแก๊ส จาน ชนิดที่ใช้ครั้งเดียวนะ จากนั้นก็ไปเตรียมส่วนผสมในการทำไข่เจียว อย่าง ปูอัด หมูยอ หมูบด อยากจะให้เครื่องเคียงของไข่มีอะไรบ้างก็ไปจัดเตรียมกันมาได้เลย แล้วก็อย่าลืมข้าวได้เลยนะ เน้นว่าให้เป็นข้าวคุณภาพดีๆเลย หุงได้หลายรอบ ไข่ก็เป็นเบอร์ 1 เราจะเลือกของไร้คุณภาพมาขายไม่ได้ลูกค้าหายหมดกันพอดี ต้นทุนรวม ๆ แล้วประมาณ 2000 บาท ไข่เจียวจานละ 20-25 บาท ขายไป 100 จานได้ทุนคืนแล้วนะ
8. โจ๊กรถเข็น โจ๊กนั้นเป็นของทานง่าย ย่อยง่าย ซึ่งเครื่องไม่เยอะแต่อาจจะต้องเคี่ยวข้าว ซึ่งถ้าใครชอบก็เหมาะมากเลยเพราะทำแล้วกำไรดีมาก ๆ เลย เริ่มที่การหาหม้อโจ๊กใบใหญ่มาสัก 1 ใบ และเครื่องโจ๊กรวมแล้วทุนก็ราว 3,000 บาท และขายในราคา 30-35 บาท ขายไป 100 ถุงได้ทุนคืนเรียบร้อย และหากทำอร่อยลูกค้าประจำมีแน่นอน ทำให้ขายดีจนต้องขยายขนาดหม้อโจ๊กไปอีก
9. ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน เป็นเมนูที่ทานง่ายเหมือนกันนะ ทำง่าย ต้นทุนไม่สูงรวมแล้วก็ราว ๆ 3,000 บาท หากล่องมาใส่มาใส่ด้วย วัตถุดิบก็ไม่แพงหาซื้อง่ายตามตลาดสดและห้า งสรรพสินค้ าทั่วไปเลย ทำไปขายราคากล่องละ 30 บาท ขายให้ได้สัก 300 กล่อง รวม ๆ แล้วก็เป็นเงิน 9,000 บาท และลองหาเทคนิคการขายเพิ่มเติมจะยิ่งทำให้มีกำไรมากขึ้น
10. แซนวิช เป็นอาหารที่หลายคนชอบทานก่อนเข้างานเลย เป็นอาหารซื้อง่าย พกพาสะดวก ทานง่ายอีกด้วย ต้นทุนต่ำมาก ๆ ส่วนราคาขายนั้นจะตั้งเท่าไหร่ก็ตามสมควร ซึ่งควรจะตั้งให้เยอะกว่าทุนสัก 5 – 10 บาท ส่วนต้นทุนนั้นก็ราว ๆ 2,000 บาท ขายได้วันละ 100 ชิ้นก็กำไรเพียบแล้ว และพยายามหาตลาดดี ๆ จะขายได้เยอะ ๆ
11. ข้าวเหนียวหมูปิ้ง อีกหนึ่งอาหารชั้นเลิศเลย จะเช้าหรือเย็นมันยังเป็นที่นิยมตลอดเลย ต้นทุนต่ำมากทำง่าย ขายก็ง่าย ทุนลงไปไมเกิน 3,000 บาท กำลังพอดีเลยโดยเฉพาะการเริ่มแรก สิ่งที่ต้องใช้ก็มีไม่เยอะ เนื้อหมู ข้าวเหนียว และ ไม้เสียบ กับเตาปิ้ง เวลาขายก็หากขายวันละ 5 บาท หากได้สัก 100 ไม้ก็ได้มา 500 บาท ข้าวเหนียวถุงละ 5 บาท ขายได้สัก 100 ถุง ก็ 500 บาท วันละ 1,000 บาทสบาย ๆ เลยและในหนึ่งวันบางคนขายได้เยอะกว่านั้นอีกด้วย
12. ร้านขายยำ อาจจะดูเป็นการทำยำหลายอย่างแต่ว่าส่วนมากเมนูยำนั้นเครื่องปรุงและวัตถุดิบจะใช้คล้าย ๆ กัน ก่อนอื่นก็ไปวางแผนก่อนว่าจะขายยำอะไร โดยจำกัดงบลงทุนครั้งแรกไปอย่าให้เกิน 3,000 บาท และพอทำขายได้จนลูกค้าติดแล้วจะเพิ่มต้นทุนก็ยังได้ ขายไปในราคาถุงละ 40 บาท จะทำให้คืนทุนเร็ว
13.วุ้นแฟนซี สำหรับคนที่ชอบทานของหวาน มาขายวุ้นแฟนซีก็เหมาะดีนะทำง่ายมากอีกด้วย ตั้งไว้เลยต้นทุน 3,000 บาท ส่วนจะทำเป็นวุ้นรูปอะไร สีอะไร กลิ่นไหนก็ตามชอบ เพียงหาซื้อพิมพ์ทำวุ้นมาแล้วลงมือเลย ขายเป็นกล่อง กล่องละ 20 – 30 บาท กำลังเหมาะ ทานง่ายทำให้สดชื่น และถ้าทำอร่อยยังไงก็ต้องไปต่อได้สวยแน่นอน
14. ผัดมาม่า เมนูธรรมดา ๆ ที่หลายคนคาดไม่ถึงอย่างการขายผัดมาม่า แถมยังมีคนชอบทานกันเยอะอีกมากเลยด้วย เนื่องจากราคาไม่แพง ขายห่อละ 10-15 บาทส่วนต้นทุนก็ประมาณ 1,000 บาทเท่านั้น ก็นะไม่ต้องชูโรงอะไรมากเลยหากทำอร่อยยังไงก็รายได้ น้อย ๆ ก็ 2,000 – 3,000 บาท กันเลยทีเดียว
15. หมึกบดหมึกย่าง เป็นสิ่งที่ขายกันเยอะมากเหมือนกันนะ ต้นทุนไม่สูง 3,000 บาทเท่านั้น พยายายมอย่าให้เกินนะ หาห มึ กแห้ง 70 – 80 บาท ส่วนเครื่องบดก็ราว ๆ 2,000 บาท แต่เป็นต้นทุนี่จะต้องซื้อครั้งเดียว ขายไปไม่นานก็จะได้ต้นทุนคืนแล้ว ยิ่งสูตรน้ำจิ้มอร่อยโดนใจยิ่งขายคล่องมาก
16. ขายสลัด เป็นสิ่งที่หลายคนชอบทานเลย สลัดนั้นทานง่ายและหลายคนก็ชอบมาก แล้วก็ส่วนมากกลุ่มลูกค้าจะเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย หากเป็นสลัดผัก ผลไม้ ที่ปลอดสารจะดีมากนะ ส่วนราคาขายนั้นก็ประมาณ 30 บาท กำลังดี
17. ไก่ทอด เป็นอาหารที่เห็นขายกันเยอะแต่ว่าจะอร่อยไหมนั้นก็อยู่ที่แต่ละสูตรด้วยนะ ชอบการทำแบบไหนลองหาข้อมูลดูว่าจะทำไ ก่ทอดสูตรไหน อีกอย่างงบในการหาสูตรแต่ละสูตรก็ไม่เกิน 3,000 บาท อุปกรณ์ก็หาง่าย ๆ บางอย่างก็ไม่ต้องซื้อก็มี บางอย่างก็ซื้อเพิ่มนะ ถ้าชอบก็ลองขายดู
18. น้ำพริกปลาทู เป็นอาหารที่ทานได้ไม่เบื่อเหมือนกัน น้ำพริกป ล าทูทำง่ายทานได้ตลอด ขายง่ายมากเหมาะกับการทานคู่กับผักลวกต่าง ๆ ซึ่งต้นทุนในการทำก็ไม่ควรจะเกิน 3,000 บาท หากรุ่งก็ค่อยลงทุนเพิ่มต่อแถมยังขายพร้อมกับเมนูอาหารอื่น ๆ ได้อีกด้วยนะ
19. ส้มตำ เป็นเมนูที่สุดโปรดของหลายคนเลย ร้านส้มตำก็ดีนะหากทำอร่อยถูกปากและมีเมนูตำให้เลือกเยอะก็จะมีลูกค้าเยอะด้วยเหมือนกัน ส่วนต้นทุนนั้นก็ราว ๆ 2,000 บาท อย่าเกินนี้กำลังเหมาะแก่การเริ่มต้นเลย หรือจะขายคู่กับไ ก่ ย่ า ง ข้าวเหนียวด้วย ยิ่งเข้ากันดี
20. อาหารทานเล่น ซึ่งจะเป็นเมนูอย่างเฟรนฟราย ไ ก่ ทอด ข้าวโพดทอด ลูกชิ้นทอด และเมนูทานเล่นอื่น ๆ งบอาจจะเยอะหน่อยหากจะลงทุนแบบจริงจังมากสัก 5,000 บาทเลย แต่ว่าถ้าเริ่มใหม่ก็ลงทุนประมาณ 3,000 บาท หาทำเลดี ๆ ทอดขายเลย
21. กล้วยทอด มันทอด เผือกทอด เป็นของหวานทานเล่นอีกเมนูนะ กล้วยทอด มันทอด เผือกทอด อร่อยมากหากทอดดีปรุงได้อร่อย และจะต้องปรุงแบบไม่อมน้ำมันด้วยนะ ส่วนงบประมาณก็ลงทุนไปสักประมาณ 3,000 บาท สิ่งสำคัญสุดก็จะเป็นทำเลในการขายนะ หากขายในที่ไม่มีคนพลุกพล่านเลยอาจจะยากสักหน่อยน
22. ขนมจีนน้ำยา เป็นเมนูที่สิ่งที่เด่น ๆ จะเป็นชูโรงเลยจะเป็นน้ำยา ส่วนตัวเส้นขนมจีนนั้นจะไม่ยากเท่าไหร่นัก งบลงทุนในการทำขนมจีนน้ำย าก็จะไม่เกิน 3,000 บาท โดยแรกๆนั้นไม่ต้องเปิดร้านอะไรใหญ่โตโดยจะเน้นขายตามจุดที่มีคนเยอะอย่างใกล้กับเขตชุมชน โรงเรียนหน่วยงานต่าง ๆ และเหมาะจะเป็นอาหารเที่ยงไปจนถึงเย็นเลย ราคาขายที่ประมาณ 30-35 บาท ขายไปสักหน่อยจะทำให้ได้ทุนคืน
23. ข้าวโพดต้ม ยิ่งง่ายใหญ่เลย คือหาข้าวโพดมาแล้วต้มขาย และถ้าใครจะปลูกเองก็ไม่ว่านะ โดยเฉพาะข้าวโพดหวานสีเหลือง ๆ จะขายดีมาก ฝักละ 15-20 บาทเลยทีเดียว ต้นทุนก็ประมาณ 1,000 บาทเท่านั้นจะได้ประมาณ 200 ฝัก ถ้าขายได้วันละ 200 ฝักเลยจะได้ประมาณ 2,000 บาทต่อวันเลยทีเดียว
24.ลงทุนขายเฉาก๋วยนมสด มีเงิน 3,000 บาท ลงทุนขายเฉาก๋วยนมสดให้ประสบความสำเร็จ 1.หาแหล่งซื้อวัตถุดิบที่ดีราคาถูก 2.ศึกษาตลาดและดูความต้องการของลูกค้า 3.หาแหล่งขายเฉาก๋วยนมสดที่เหมาะสม เช่น หน้าโรงเรียน/โรงงาน/บริษัท/แหล่งชุมชน เป็นต้น 4.มีสูตรความอร่อยของเฉาก๋วยนมสด
25.ลงทุนขายทาโกยากิ มีเงิน 3,000 บาท ลงทุนขายทาโกยากิให้ประสบความสำเร็จ 1.หาแหล่งซื้อวัตถุดิบ 2.ศึกษาตลาดและความต้องการของลูกค้า 3.เรียนรู้การทำทาโกยากิที่อร่อย 4.มีใส้ทาโกยากิหลายเมนู 5.มีแหล่งขายสินค้า
สำหรับใครที่กำลังมองหาอาชีพเสริมหลังเลิกงาน หรือหาอะไรทำในระหว่างว่างงานโดยการขายอะไรสักอย่างที่ไม่ต้องลงทุนสูง ลองเลือกจาก 25 อาชีพการขายที่เราแนะนำมาข้างต้นนั้นได้เลย
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.in.th