1 ต.ค. นี้ เริ่มบังคับใช้ ภาษีความหวาน ราคาน้ำอัดลมสูงขึ้น 2-3 บาท
นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป จะเริ่มจัดเก็บภาษีความหวาน จากผู้ประกอบการเครื่องดื่มประเภทต่างๆ หลังให้เวลาปรับตัวมา 2 ปี โดยเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลเกิน 10 กรัม แต่ไม่เกิน 14 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร จะเสียภาษีเป็น 1 บาทต่อลิตร จากเดิมเสียภาษี 0.50 บาทต่อลิตร เครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลเกิน 14 กรัม แต่ไม่เกิน 18 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร จะเสียภาษี 3 บาทต่อลิตร จากเดิม 1 บาท และที่มีปริมาณน้ำตาลเกิน 18 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร จะเสียภาษี 5 บาทต่อลิตร
ภาษีความหวานที่กำลังจะเริ่มบังคับใช้ ส่งผลกระทบถึงกลุ่มน้ำอัดลม ที่เตรียมปรับขึ้นราคาอีก หลังจากที่เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพิ่งจะปรับขึ้นราคาไปขวดละ 2 - 3 บาท ซึ่งผู้ประกอบการก็ทยอยแจ้งไปถึงตัวแทนและเหล่าลูกค้า
ส่วนผู้ประกอบการในกลุ่มชาเขียวพร้อมดื่ม ได้ทยอยปรับสูตรเครื่องดื่ม เพื่อไม่ให้กระทบต่อต้นทุนแล้ว ทั้งนี้ ภาษีความหวานจะมีลักษณะการเก็บภาษีแบบขั้นบันได การปรับภาษีจะมีขึ้นอีกในทุกๆ 2 ปี โดยการปรับขึ้นในครั้งนี้เชื่อว่าจะไม่กระทบกับผู้บริโภค แต่การจัดเก็บภาษีอัตราใหม่ จะช่วยเพิ่มรายได้ให้รัฐบาลกว่า 1,500 ล้านบาท หรือจะสามารถจัดเก็บภาษีความหวานได้ราว 3,500-4,500 ล้านบาทต่อปี
เป็นอีกหนึ่งรายการภาษีที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์จากประชาชน และร้านค้าต่างๆที่ยังคงกังวลว่าหากราคาน้ำอัดลมเพิ่มราคามากขึ้น อาจจะทำให้ผู้บริโภคซื้อเครื่องดื่มบริโภคกันน้อยลง
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.in.th