มีเท่าไหร่ งบช่วยเหลือภัยพิบัติปี 62 และมาจากส่วนไหนบ้าง
หลายๆท่านอาจจะเคยสงสัยกันเมื่อครั้งที่รัฐมนตรีจัดให้มีรายการรับบริจาคน้ำท่วม เมื่อ 17 กันยายน 2562 และเกิดคำถามในใจว่า งบประมาณที่ใช้แก้ปัญหาปฏิบัติตามปกติมาจากไหน วันนี้เราเลยจะขอพาทุกคนได้รู้จักโครงสร้างของงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือภัยพิบัติกัน
ในงบประมาณรายจ่ายประจำปี (วงเงินปี 2562 3 ล้านล้านบาท) รายจ่ายต่าง ๆ ของรัฐบาลถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน
ส่วนแรกคืองบประมาณประจำปี (2,894,500 ล้านบาท) ที่แบ่งให้ หน่วยงานของรัฐ ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ต่าง ๆ ใช้สอยในการปฏิบัติหน้าที่ตามแผนงานประจำปี และเป็นงบประมาณที่รัฐบาลใช้ในการดำเนินนโยบายต่าง ๆ เช่น นโยบายการพัฒนาระบบคมนาคม การดำเนินโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) การจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของกระทรวงกลาโหม เป็นต้น
ส่วนที่ 2 เรียกว่างบประมาณรายจ่ายงบกลาง (105,500 ล้านบาท) ใช้ดำเนินการในกรณีที่มีเหตุต่าง ๆ นอกแผนงาน ซึ่งแยกย่อยออกเป็นค่าใช้ต่าง ๆ หนึ่งในนั้นคือค่าใช้จ่ายชดใช้เงินทดรองราชการเพื่อการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน และ เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
ค่าใช้จ่ายชดใช้เงินทดรองราชการเพื่อการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (2,500 ล้านบาท) โดยแต่ละส่วนราชการจะมีวงเงินทดรองราชการเพื่อให้ความช่วยเหลือในกรณีที่เกิดภัยพิบัติฉุกเฉินไป ก่อนที่จะได้รับงบประมาณรายจ่าย เช่นสำนักนายกรัฐมนตรีมีเงินส่วนนี้ 100 ล้านบาท ให้อำนาจนายกรัฐมนตรีในการอนุมัติ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมีเงินส่วนนี้จังหวัดละ 20 ล้านบาท โดยผู้ว่าราชการของแต่ละจังหวัดมีอำนาจอนุมัติ เพื่อให้มีการช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที เมื่อช่วยเหลือแล้วแต่ละหน่วยราชการจึงทำเรื่องเบิกเงินที่ทดรองไปแล้วคืนจากงบก้อนนี้เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ
ส่วนเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น (99,000 ล้านบาท) กำหนดให้ใช้ได้ใน 4 กรณี
1.เป็นรายจ่ายเพื่อการป้องกันหรือแก้ไขสถานกาณณ์อันมีผลกระทบต่อความวงบเรียบร้อยของประชาชน หรือความมั่นคงของรัฐ
2.เป็นรายจ่ายที่จำเป็นต้องจ่ายเพื่อการเยียวยาหรือบรรเทาความเสียหายจากภันพิบัติสาธารณะร้ายแรง
3.เป็นรายจ่ายที่ได้รับจัดสรรงบประมาณไว้แล้ว แต่มีจำนวนไม่เพียงพอและมีความจำเป็นเร่งด่วนของรัฐต้องใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพันงบประมาณโดยเร็ว
4.เป็นรายจ่ายที่ไม่ได้รับจัดสรรงบประมาณ แต่รัฐมีภารกิจจำเป็นเร่งต่วนที่จะต้องดำเนินการและต้องใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพันงบประมาณโดยเร็ว
พิจารณาจากโครงสร้างงบประมาณนี้แล้ว พบว่า
(1)กรณีเกิดภัยพิบัติแต่ละหน่วยราชการจะดึงเงินทดรองราชการที่อยู่ในงบประมาณของแต่ละหน่วยการปกครองออกมาใช้
(2)เงินทดรองราชการตามข้อ 1 จะได้รับคืนภายหลังจากเงินชดใช้ที่แบ่งไว้ในงบกลาง
(3)อาจดึงเงินจากเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ได้ในกรณีที่งบประมาณยังไม่เพียงพอ โดยทำเรื่องขอจัดสรรไปยังสำนักงบประมาณ และนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้พิจารณาอนุมัติ เพื่อให้ช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีและเต็มประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 ระบุว่าอาจมีแหล่งงบประมาณอื่นนอกจากนี้ ได้แก่
(4) เงินงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ
(5) เงินบริจาค
สำหรับเรื่องงบประมาณของทางภาครัฐนั้น อาจจะมีขั้นตอนที่ซับซ้อน กว่าชาวบ้าน หรือผู้ประสบภัยจะได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยา ก็ต้องใช้เวลาและให้เป็นไปตามขั้นตอนค่ะ แต่เงินช่วยเหลือนั้นถึงมือประชาชนแน่นอน
ขอขอบคุณที่มาจาก : workpointnews.com