อ.เจษฎา แฉครีมบัวหิมะ ส่วนผสมไม่ถึงพัน แต่หลอกขายเป็นหมื่น
จากกรณีที่โลกออนไลน์มีการพูดถึงผลิตภัณฑ์ครีมบัวหิมะ ที่เวลาคนไทยส่วนใหญ่เดินทางไปประเทศจีน ก็มักจะถูกไกด์ทัวร์หลอกพาไปซื้อ ขนกลับมาเมืองไทย เพราะเชื่อว่าสรรพคุณดีเลิศ รักษาแผลพุพอง น้ำร้อนลวก ไฟไหม้ หรือแม้กระทั่งสิวได้ แต่ภายหลังกลับถูกแฉว่า คนจีนไม่รู้จักครีมชนิดนี้ แม้แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องของผลิตภัณฑ์ยาก็ไม่รู้จัก
ล่าสุด เฟซบุ๊กเพจ เมี่ยวซินคลินิกแพทย์แผนจีน ได้ออกมาให้ความรู้ ถึงผลิตภัณฑ์ครีมบัวหิมะ ว่า
"ครีมบัวหิมะที่ไม่มีบัวหิมะ เชื่อว่าพวกเราหลายคนคงเคยได้เห็นหรือได้ยินชื่อของครีมบัวหิมะจากทางโฆษณาว่ามีสรรพคุณในการลดอาการอักเสบจากแผลพุพอง น้ำร้อนลวก หรือแมลงสัตว์กัดต่อย หรือบางคนได้พบเจอขณะไปเที่ยวเมืองจีนอยู่บ้าง แต่รู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้วในครีมบัวหิมะนั้น ไม่มีส่วนผสมของสมุนไพรบัวหิมะอยู่เลย
มาถึงตรงนี้หลายคนคงสงสัยว่าแล้วชื่อบัวหิมะมาได้อย่างไร แล้วทำไมคนไทยจึงเรียกครีมนี้ว่าบัวหิมะ ก่อนอื่นผมจะขอเล่าสมุนไพรบัวหิมะที่ใช้ในทางการแพทย์แผนจีนว่ามีสรรพคุณอย่างไร
สมุนไพรบัวหิมะในทางการแพทย์แผนจีนมีชื่อวส่า เสว่ะเหลียนฮวา (雪莲花) โดยมีถิ่นกำเนิดอยู่แถบซินเจียง ประเทศจีน มีฤทธิ์อุ่น รสหวานขม
มีสรรพคุณในการบำรุงหยาง ขับความหนาวเย็น ปรับสมดุลประจำเดือน ใช้สำหรับรักษาผู้ที่มีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือประจำเดือนมาไม่ปกติ เป็นต้น
โดยหากพิจารณาจากฤทธิ์ และสรรพคุณแล้ว ดูจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีสมุนไพรบัวหิมะในครีมบัวหิมะที่เราได้ยินกัน เช่นนั้นแล้วชื่อของครีมบัวหิมะมาจากไหน
เดิมครีมบัวหิมะนั้นไม่ได้มีชื่อว่าบัวหิมะ แต่ชื่ออย่างเป็นทางการของมันคือ "เป่า ฟู หลิง" โดยครีมดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป่ยจิงเป่าซู่ถัง บริษัทเป่ยจิงเป่าซู่ถังได้ถือกำเนิดจากการลงทุนจากไต้หวัน โดยคุณ เซี่ยะ คุน จง ซึ่งเป็น โดยเริ่มแรกคุณเซี่ยะเป็นทายาทรุ่นที่ 7 ของบริษัทไถวันเป่าซู่ถังอยู่ที่ไต้หวัน ต่อมาในปี 2524 คุณเซี่ยะได้ทำการศึกษาตลาดในประเทศจีนอยู่ 2 ปี และเล็งเห็นถึงโอกาสในการลงทุนในประเทศจีน และได้ทำการลงทุนเปิดบริษัทเป็นจิงเป่าซู่ถังในปี 2531 โดยดำรงตำแหน่ง CEO ตั้งแต่นั้นมา
การถือกำเนิดของครีม เป่า ฟู หลิง (宝 肤 灵)ครีมเป่าฟูหลิงนั้นถือเป็นผลิตภัณฑ์หัวใจหลักของบริษัทเป่ยจิงเป่าซู่ถังตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน โดยในปี 2543 ทางบริษัทเคยได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์ดีเด่นจากทางรัฐบาลในงานแสดงผลิตภัณฑ์ครีมเป่าฟูหลิง
อีกสองปีต่อมาบริษัทได้ทำการเปลี่ยนชื่อผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของทางกรมการแพทย์แผนจีนของประเทศจีน เป็นชื่อ "ฟู่ฟางจางหน่าวหรู่เกา" และตัดชื่อภาษาจีน 宝肤灵ออก แต่ทั้งนี้ทางบริษัทก็ยังคงมีการพิมพ์คำว่า BAO FU LING ไว้บนกล่องเสมอไม่ว่าจะ Repackaging ไปอีกกี่ครั้ง
ในครีมเป่าฟูหลิงหรือฟู่ฟางจางหน่าวหรู่เกานั้น มีส่วนประกอบหลักจากสมุนไพรสองชนิดคือ
การบูร(จางหน่าว : 樟脑) และสาระแหน่ (薄荷) ซึ่งสมุนไพรทั้งสองในทางการแพทย์แผนจีนนั้นมีสรรพคุณดังนี้
การบูร(樟脑) รสเผ็ด ฤทธิ์อุ่น มีสรรพคุณในการ ลดอาการคัน ลดบวม แก้ปวด เป็นต้น
สาระแหน่(薄荷) รสเผ็ด ฤทธิ์เย็น มีสรรพคุณในการขับพิษร้อน อาการผื่นคันจากความร้อน เป็นต้น
ซึ่งเมื่อดูจากสรรพคุณยาหลักทั้งสองตัวแล้วนั้น ครีมเป่าฟูหลิงจึงมีสรรพคุณในการลดอาการคันจากแมลงกัดต่อย อาการผื่นคัน อาการปวดบวม การพุพองจากการโดนลวก เป็นต้น
ถึงแม้มีการโฆษณาถึงสรรพคุณอย่างแพร่หลายแต่สิ่งที่ต้องคำนึงคือข้อบ่งใช้ที่ถูกต้องโดย
1.ครีมเป่าฟูหลิงเป็นครีมที่ใช้ทาเฉพาะภายนอก และไม่แนะนำให้ใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ
2.ไม่ควรใช้ครีมทาลงบริเวณที่มีแผลเปิดโดยตรง
3.หลังการใช้ยาหากพบอาการแสบแดงคัน หรืออาการแพ้ ควรหยุดการใช้ยาโดยทันที และหากมีอาการไม่พึงประสงค์รุนแรงควรพบแพทย์
4.ไม่ควรใช้ยาติดต่อกันนานเกิน 1 สัปดาห์
ส่วนสาเหตุที่ครีมเป่าฟูหลิงนั้นถูกเรียกเป็นบัวหิมะ มีการสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากเหตุการรถแก็สระเบิดที่บริเวณเพชรบุรีตัดใหม่แล้วมีคนนำครีมชนิดนี้มาทาเพื่อลดการพุพองจากแผลไฟไหม้ และอ่านชื่อผลิตภัณฑ์จากคำว่า เป่า เป็น บัว อีกทั้งมีลักษณะเนื้อครีมเป็นสีขาว เนื้อดูสะอาดตา จึงกลายเป็นชื่อบัวหิมะที่เราเรียกกันติดปากในปัจจุบัน"
ทางด้าน อ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาเผยเบื้องลึกของครีมบัวหิมะ ที่เราต่างเข้าใจผิดกันมาตลอด โดยอาจารย์ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า
"มาอธิบายกันเรื่อง "ครีมบัวหิมะ" กันต่อนะครับ ที่คนไทยหลายคนเวลาไปทัวร์เมืองจีนจะถูกหลอกขายราคาแพงๆ โดยอ้างว่ามีสมุนไพรบัวหิมะใส่อยู่ และเป็นของที่รัฐบาลจีนโปรโมท
แต่จริงๆก็เป็นแค่ "ครีมการบูร ผสมเกล็ดสะระแหน่ (เมนทอล)" แค่นั้นเอง ใช้ทาเวลาน้ำร้อนลวกและแมลงสัตว์กัดต่อยไม่ได้มีส่วนผสมของสมุนไพรบัวหิมะอะไร
ส่วนชื่อเรียกบัวหิมะนั้น เป็นแค่ชื่อเรียกที่เพี้ยนไปจากชื่อภาษาจีนแค่นั้นเอง สมัยที่เอามาโปรโมทในไทย ยุคที่รถแก๊สระเบิด สนนราคาก็กระปุกละประมาณ 1,500 บาท (ต่อ 100 กรัม) เอง อย่าไปเสียเงินซื้อเป็นหมื่นๆ"
ต่อไปนี้เราก็จะไม่โดนหลอกให้ซื้อครีมบัวหิมะในราคาแพงๆอีกต่อไป เพราะได้ทราบกันแล้วค่ะว่า ที่แท้ครีมบัวหิมะที่เราหลงเชื่อว่าสรรพคุณครอบจักรวาล ไม่มีส่วนผสมของบัวหิมะแต่อย่างใด
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : kaijeaw.in.th, ขอขอบคุณที่มาจาก : Jessada Denduangboripant