สวยสุดๆ วิ่งเปลี่ยนชีวิต 3เดือนน้ำหนักลด13กิโลกรัม
อีกหนึ่งแรงบันดาลใจในการลดน้ำหนักด้วยการวิ่ง 3 เดือน ลดไป 13 กิโล โดยสมาชิกเฟซบุ๊กชื่อคุณ Suthasinee Sathon เล่าว่า "บอกก่อนเลยว่า ก่อนหน้านี้เป็นคนเที่ยวหนัก ดื่มหนักมาก วันเว้นวัน หรือช่วงไหนพีคๆติดลมก็จะออกไปดื่มทุกวัน ไม่พอแค่นั้น หลังดื่มก็จะจัดหนักกินข้าวมื้อใหญ่เลยจ้าา เป็นคนเมาแล้วหิว ละกินเยอะมาก ไม่ดูแลตัวเอง ยังเอ็นจอยกับการกินการดื่มมาตลอดอีกอย่างคือชอบกินชานมไข่มุก อย่างน้อยก็วันละแก้ว
จนกระทั่งมาเจอแฟน... ช่วงแรกๆที่คบกันแฟนก็ตามใจ กินอะไรก็กิน พาไปเที่ยว ไปดื่ม ไม่เคยห้าม แต่ก็แอบชวนออกกำลังกาย แต่นี่ก็ไม่ไปนะ ขี้เกียจมาก ไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้ พอวันนึงก็เริ่มอึดอัด เพราะปกติเป็นคนชอบแต่งตัว แล้วรู้สึกว่า เฮ้อ ใส่อะไรก็แน่น ใส่อะไรก็ไม่สวยเลย พูดว่าจะลดๆ ผ่านไป 2-3 ปีน้ำหนักก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ใส่อะไรก็ไม่มั่นใจเลย
จนวันนึงแฟนชวนไปวิ่ง จำได้เลยย ที่สวนรถไฟ วิ่งได้ไม่ถึง300-500เมตรเลย เหนื่อยมาก ไม่ไหว ไม่อยากออกแล้ว ทำไม่ได้แน่ๆ คิดอย่างนั้น แต่ดีที่แฟนอดทน และไม่เบื่อที่จะบังคับให้ออกไปวิ่ง
ช่วงนั้นจะตั้งนาฬิกาปลุกทุกเช้า ตี5ครึ่ง ต้องออกไปวิ่ง จะมากจะน้อยก็ต้องออกไป แรกๆ ได้1โล 2 โล ต่อเนื่อง ก็รู้สึกว่าตัวเองเก่งแล้ว ช่วงแรกจะปวดขามากกกกกก ปวดเข่า ปวดไรไปหมด ก็ท้อ แรกๆน้ำหนักลดยากมาก แต่ก็ยังพยายามวิ่งสลับเดินไปเรื่อยๆ แต่ดีหน่อยที่ไม่ว่าเราจะวิ่งช้าๆหรือหยุดเดิน แฟนก็จะวิ่งช้า หรือจะเดินเป็นเพื่อนตลอด ไม่วิ่งแซงไม่วิ่งนำ จะรอเราตลอด จะคอยพูดว่า เอาอีกนิดๆ ทนอีกๆ จนช่วงนั้นเริ่มวิ่งได้ 3-4 โลต่อเนื่อง พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ตอนนั้นก็วิ่งที่สวนสลับกับที่ฟิตเนสบ้าง เอาที่ตัวเองสะดวก ถ้าอากาศร้อนๆก็แนะนำวิ่งบนลู่
หลังจากที่วิ่งผ่านมาสักหนึ่งเดือน เราก็เริ่มไม่ดื่ม อาจจะมีบ้างเดือนละครั้งสองครั้ง คือถือว่าน้อยลงมากกกกก ! จากแรกๆที่ดื่มเป็นชีวิตจิตใจเลย ใครห้ามนี่โกรธ ไม่อ้วกไม่กลับ จนตอนนี้ แฟนชวนออกไปชิวบ้างก็ไม่อยากไป เพราะเวลาที่เราออกกำลังกาย ร่างกายมันจะปรับตัวดีขึ้น จะเข้านอนเร็ว ตื่นเช้า แต่ละวันรู้สึกแฮปปี้มาก
หลังจากเดือนแรก ร่างกายเริ่มเข้าที่กับการวิ่ง แฟนก็มักจะมีรางวัลมาล่อ เพื่อให้เรามีกำลังใจในการวิ่งอยู่เสมอ เช่น ถ้าวิ่งครบ7วันต่อเนื่อง จะได้นาฬิกาไว้ใส่ออกกำลังกาย เราก็ทำได้. จากนั้น ถ้าวิ่งครบ 5 กิโลต่อเนื่องก็จะได้รองเท้าวิ่งคู่ใหม่ คือมันช่วยได้จริงๆนะ ให้เราพัฒนาตัวเอง และทุกครั้งที่เราวิ่งจบ จะได้รับคำชมจากแฟนเสมอ เช่นเก่งมาก ทำดีแล้ว เดี๋ยวก็เก่งนะ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ดีมาก แฟนไม่ค่อยพูดกดดัน แต่มักจะเป็นคำพูดที่ให้กำลังใจมากกว่า
จนเรามาติดการวิ่ง เราก็เริ่มดูพัฒนาการตัวเองด้วยการบันทึกการวิ่งในแต่ละวันเสมอ คือมันดีขึ้นทุกวันๆ จากคนที่วิ่งสลับเดินเพซ 9 ตอนนี้เราวิ่งได้เร็วและยาวขึ้น
ระยะทางที่ไกลที่สุดคือ12กิโล ในเพซ 7 โดยใช้ระยะเวลาฝึกทั้งหมด 3 เดือน มีเกเรบ้าง จริงจังบ้างแล้วแต่ช่วง เราไม่กดดันตัวเอง เมื่อไหร่ที่แฮปปี้จะวิ่งก็ออกไปวิ่ง วันไหนไม่มีอารมณ์เท่าไหร่ก็ออกไปวิ่งนะ แต่เราเอาเท่าที่เราไหว เราจะเริ่มจาก 2-3 โล ขยับไปวิ่ง 5 โล 8 โล 10 โล และ 12 โลตามลำดับ ไม่ต้องรีบ แนะนำให้ฟังเพลงระหว่างวิ่งเปิดเพลงที่เราชอบ ให้มันสนุกไปกับการวิ่ง จะทำให้เราวิ่งได้นานขึ้น
ในเรื่องของอาหาร ถามว่าควบคุมไหม เราไม่ได้เคร่งขนาดจนที่ต้องมานับแคลอรี่ แต่เรางดดื่ม ชานมไข่มุก จากที่เคยดื่มทุกวัน และไม่ค่อยปรุงอาหาร ลดการกินเค็ม กินหวาน นานๆทีจะกินขนมหวาน การทานอาหารก็ปกติทั่วไป ไม่ได้งดแป้งหรืออะไร เพราะชอบกินเส้น งดไม่ได้จริงๆแก ละก็เรื่องดื่ม เรื่องเที่ยว หลังๆก็จะเที่ยวน้อยลงมากกกก มีดื่มบ้างตามอารมณ์ อยากผ่อนคลายก็มีออกไปจิบๆบ้าง
สวยมากเลยครับ
หุ่นดีมาก
ใส่ชุดไม่แน่นแล้วจ้า
เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจสำหรับสาวอวบที่มีความตั้งใจที่อยากจะลดความอ้วนด้วยวิธีการวิ่งเปลี่ยนชีวิต โดยไม่พึ่งยาลดความอ้วน ใครที่อยากรู้จักสาววิ่งเปลี่ยนไซส์คนนี้มากยิ่งขึ้นหรือเคล็ดลับดีๆ ก็สามารถติดตามได้ที่ suthasinee.ssh ได้เลยจ้า
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.in.th ขอขอบคุณที่มา : Suthasinee Sathon