ทำไงดีบริษัทขอตรวจสอบ facebook ก่อนตัดสินใจรับเข้าทำงาน

       ไม่รู้ว่าเคยมีใครถาม หรือมีกรณีประมาณนี้รึเปล่า สมมุติในมุมมองของบริษัทหรือองค์กร ที่ต้องการตรวจเช็คดู ก็เพื่อดูว่าคุณเป็นคนยังไง มีทัศนคติอย่างไร หรือถ้ารับมาแล้วจะอยู่ร่วมกับคนอื่นได้ไหม เพื่อประกอบการตัดสินใจในการรับคุณเข้าทำงาน

ล่าสุดสมาชิกพันทิปรายหนึ่งโพสต์ตั้งกระทู้คำถามข้อความเล่าว่า.."สัมภาษณ์งานแล้วทางบริษัทขอดู Facebook เรา คิดว่ามันเกินไปมั้ย"

ตามหัวข้อเลย ถ้าเขาขอดู Facebook เรา ซึ่งมันเป็นเรื่องส่วนตัวของเรา อยากรู้ว่าเขาดูเพื่ออะไร หรือถ้าเราโพสอะไรที่มันดูไม่ดี ทางบริษัทเห็นว่า ทัศนคติคุณไม่ดี ไม่เหมาะที่จะมาร่วมงานในบริษัทเรา เขาตัดสินกันตรงนี้ด้วยใช่มั้ย คิดว่ามันสำคัญและจำเป็นด้วยมั้ยที่จะต้องทำแบบนี้ ? ปล.ออกความเห็นกันได้ เเต่อย่าทำให้ถึงขั้นดราม่าเลย กลางๆกันพอเนอะ เเค่อยากรู้

ต่อมาก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากอาทิเช่น

เขาต้องการดูว่า สิ่งที่คุณกล่าวตอนสัมภาษณ์และข้อมูลต่างๆที่คุณให้ไปเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าครับคนบางคน ตอนสัมภาษณ์เล่าประวัติตัวเองเส้นทางชีวิตตัวเองแบบหนึ่ง แต่เมื่อไปดูเฟสบุ๊ค โปรไฟล์เป็นเหมือนคนละคนเลยผมเคยเจอมาแล้ว ในเรซูเม่ลงไว้ว่าทำงานที่เดียว 2 ปี แต่ในเฟสบุ๊ค มีโพสต์ไปสัมภาษณ์งาน เปลี่ยนงานบ่อยมาก มีโพสต์ด่าเพื่อนร่วมงานเก่าด้วย

ในฐานะฝ่ายบุคคล ขอบอกว่าผมยังรู้สึกดี ที่บริษัทนี้ยังแจ้งขอก่อน ผมทราบว่าบางบริษัทเขาไม่ขอ แต่เขาส่องเลยโดยเฉพาะพวกคนที่ต้องใช้ชื่อเฟสบุ๊คเป็นชื่อจริง นามสกุลจริง เวลาจะโพสต์อะไรที่สุ่มเสี่ยง เช่นเรื่องการเมืองหรือเรื่องด้านลบๆ ก็ขอให้ตั้งเห็นเฉพาะเพื่อนในเฟสบุ๊คเท่านั้นนะครับ  บางบริษัทเขาส่อง พิจารณาตัวตนในเฟสบุ๊คคุณ ก่อนนัดสัมภาษณ์งาน ก็มีนะครับ

ถ้าเป็นคนปกติ มีทัศนคติปกติ ไม่มีดร่าม่าใน Facebook ก็ให้ดูไป จริงๆมันเป็นเรื่องส่วนตัวแต่ถ้าคุณได้ทำงานมันจะไม่ส่วนตัวอีกต่อไป เพราะบางคนชอบเอาเรื่องงานไปโพส ไปประจานเพื่อนร่วมงาน ฯลฯซึ่งผมมองว่าเขาจับจุดนี้มากกว่า facebook ผมเองก็มีเพื่อนในบริษัทฯ น้อยมากที่ดร่ามาเรื่องงาน เพราะถ้ามีบ่งบอกถึงทัศนคติ

ถ้าเลือกได้ก็อย่าไปทำเลยครับบริษัทแบบนี้ เราไม่รู้หรอกเขาจะเอาเหตุผลอะไรมาตัดสินคุณ โพสต์คำหยาบก็แทบทุกคน ความเห็นต่างทางการเมืองมันก็มีความเป็นไปได้ ทัศนะคติไม่ดีบลาๆๆ ยังมีบริษัทอีกมากมายที่ไม่สนใจโซเชียลแอคเค้าต์ ง้ออะไรมากมาย

เหมือนเขาดูคุณแก้ผ้า    ถ้าทำงานที่นี่ทุกอย่างไม่มีเรื่องส่วนตัว   โดนล้วงตับหมด   คุณต้องหัดสตอเบอรี่ใน face  อีก    ถ้าทำงานนี่ ควรดีดเพื่อน  ๆ   ญาติ ๆ   ออกจาก face  ให้หมด  แล้วโทรไปบอกความจริงว่าหัวหน้างานและบริษัทเข้ามาส่องกรูใน face  ตลอด    เอาคนไม่เกี่ยวข้องกับงานออกไปให้หมด ใน face  ก็เหมือนเวลางานปลอดภัยสุด       ลงเฟสไปจะโดนเด้งเมื่อไหร่ก็ไม่รู้คือไม่โพสต์สิ่งไม่ควร

มันเรื่องส่วนตัวแต่เค้าก็ขอดูนี่ครับ ให้ไม่ให้อีกเรื่องมันเป็นตัวชี้วัดทัศนคติ ความสนใจได้ระดับหนึ่งเลยบางทีคำตอบว่าให้หรือไม่ให้ อาจเป็นคำตอบที่เค้าต้องการก็ได้ หรือบางครั้งเค้าอาจแค่ต้องการให้คุณถามว่า ต้องการพิจารณาเรื่องอะไรก็ได้ เป็นตัวของตัวเองดีที่สุดแล้วล่ะครับ

ทางนี้ก็ดูนะคะ แต่ไม่ได้ขอโต้งๆ นะ แต่เอาชื่อ-นามสกุลในใบสมัครไปค้นดูใน FBไม่ได้อยากจะเผือกหรอกค่ะ แต่แค่อยากรู้ว่าที่แล้วมาเป็นพวกชอบโพสต์ด่าที่ทำงานลงโซเชียลหรือเปล่าซึ่งถ้าเป็นบุคคลประเภทนั้น จะไม่รับค่ะ

(แต่ถ้าบางคนใช้ชื่อไม่ตรงกับชื่อ-นามสกุลจริง ก็ค่อยเนียนถามตอนที่รับเข้ามาทำงานแล้วแล้วค่อยไปส่อง ไว้ประกอบการตัดสินใจในการจะให้ผ่าน - ไม่ผ่านโปร)

       อย่างไรก็ตาม ให้ไม่ให้อีกเรื่องมันเป็นตัวชี้วัดทัศนคติ เขาต้องการดูว่า สิ่งที่คุณกล่าวตอนสัมภาษณ์และข้อมูลต่างๆที่คุณให้ไปเป็นเรื่องจริงหรือไม่คนบางคน ตอนสัมภาษณ์เล่าประวัติตัวเองเส้นทางชีวิตตัวเองแบบหนึ่ง แต่เมื่อไปดูเฟสบุ๊ค โปรไฟล์เป็นเหมือนคนละคนเลย คาดว่ามีแค่บางบริษัทเท่านั้น 

เรียบเรียงโดย : kaijeaw.in.th