หนุ่มเผยวิธีเลิกบุหรี่ หักดิบใช้ใจ ไม่ใช้ยา สูบมา15ปีก็เลิกได้

       อีกหนึ่งเรื่องราวที่ชวนคนรอบข้างยิ้ม และเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่อยากเลิกสูบบุหรี่หลายท่าน หนุ่มเผยวิธีเลิกบุหรี่ หักดิบใช้ใจ ไม่ใช้ยา สูบมา 15 ปีก็เลิกได้

โดยสามชิกพันทิปชื่อคุณ JPPK ออกมาแบ่งปันประสบการณ์ดีๆ อีกมุมของคนที่ต้องการเลิกสูบบุหรี่ เล่าว่า สวัสดีครับ ผมป้อมครับผมมีเรื่องเกี่ยวกับการเลิกสูบบุหรี่ของผม มาเล่าครับ ยาวหน่อยนะครับ

จุดเริ่มต้นการเริ่มสูบนะครับ ตอนนั้น เด็กมากๆ 12-13 ขวบ( ม.1-ม.2 ) เพื่อนรุ่นๆ เดียวกัน มาชวนให้ลองสูบ เหตุผลคือ สูบแล้วเท่ดี ด้วยความที่เราก็เด็กๆ อยากเท่ในหมู่เพื่อน ก็ลองเลย และนั้นคือ จุดเริ่มต้น ของผมเลยล่ะ 

ส่วนการสูบบุหรี่อย่างจริงจัง น่าจะช่วง อายุ 14-15 ปี สูบไปเรื่อย สูบทุกวัน ไปโรงเรียนก็มีติดกระเป๋าตลอด ซ้อนไว้ ในสมุด ในหนังสือ ตามห้องน้ำบ้าง ตามอาคารเรียนบ้าง โดนครูจับได้ก็มีบ้าง 

จนกระทั่งโต พร้อมทำงาน ผมก็ยังสูบตลอด เรื่อยมา ผมสูบบุหรี่ ได้ทุกเวลา แต่ข้อห้ามส่วนตัวในการสูบหรี่ ของผมก็มีอยู่นะ ไม่สูบบุหรี่ไกล้เด็ก ไม่สูบบุหรี่ในที่สาธารณะ ไม่สูบบุหรี่ในบ้าน ไม่สูบบุหรี่ในรถ สถานที่ห้ามสูบบุหรี่ทั้งหมด ผมจริงจังพวกนี้นะ และผมไม่ชอบคนที่มึนสูบด้วย " พลานซวยกันหมด "

ว่ากันง่ายๆ ผมไปที่ไหน ที่ตรงนั้น มีป้าย " พื้นที่สูบบุหรี่ " เจอผมแน่นอน ก่อนผมตัดสินใจเลิกบุหรี่ 7-8 ปีย้อนหลัง ผมสูบบุหรี่วันละ 1 ซอง ครับ แล้วเวลาบางทีกินเหล้า หรือทำงานดึกๆ ก็มากกว่านั้น อาจถึง 2 ซอง ใน 1 วัน ซึ่งมันก็เยอะอยู่นะ

ผมลองมาคำนวณเล่นๆ 1 ซอง มี 20 มวน ราคา 55-60 บาทผมตื่นตอน 6 โมง แล้วนอน 4 ทุ่ม เป็นเวลา 16 ชม. เท่ากับว่า 1 ชม. ผมสูบบุหรี่ 1 มวนกว่าๆ แต่ในความเป็นจริง เวลาทำงานผมอาจไม่สูบ แต่ผมมาสูบ 1-2 มวนในครั้งเดียว 

เอาจริงๆ คนสูบบุหรี่จะรู้ดี ความสุขของการได้สูบบุหรี่ คือเหมือนเราได้ ผ่อนคลาย ได้ตอบสนองความต้องการของร่างกาย ได้พูดคุยสังสรรค์ในกลุ่มนักสูบ ฟินในแบบนั้นๆ อันนี้คนไม่สูบจะไม่เข้าใจ และผมเองก็ไม่ขอก้าวก่ายกับการสูบบุหรี่ของท่านอื่นนะครับ

ผมสูบบุหรี่จนทุกคนที่ต้องการเจอผม อาจไปเจอได้ ที่สูบบุหรี่ ทุกคนต้องถามผม เวลาต้องการไฟแช็ก เสมอเวลามีข่าวคนรู้จักเป็นมะเร็ง เสียชีวิต คนรอบข้างก็มักจะกรอกหูผม

เรื่องตัวช่วยในการลดหรือเลิก สูบบุหรี่ผมเคยลอง หมากฝรั่งที่บอกว่าช่วยเลิกมาเคี้ยว ก็ไม่ได้ผล หนักๆ คือเคี้ยวไป สูบไป

อีกเหตุการนึง ที่ทำให้ผมคิดอยากเลิก คือ ลูกชายคนโต ช่วงอายุประมาณ 2-12 เดือน มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เค้ามีอาการคล้ายจะหายใจไม่ออก เวลานอนกลางคืน เป็นทุกคืน จนต้องพบหมอ ต้องใช้ยาขยายหลอดลม ต้องช่วยขยับท่านอน หมอให้ลองวิธีต่างๆ เช่นนอน ปิดแอร์ นอนเปิดแอร์ นอนเปิด/ปิดพัดลม นอนในห้องโล้ง ก็ไม่หาย ไม่มีการเจอะเลือด หรือตรวจใดๆ มากกว่านี้ 

แต่หมอเคยถามผม ว่าสูบบุหรี่มั้ย 
เค้าบอกว่า รู้มั้ยบุหรี่เนี้ย มันมีกลิ่น ควัน มันติดเสื้อผ้าเรานะ เวลามากอดลูก อุ้มลูก หอมลูก เด็กจะได้รับกลิ่นเข้าไปได้นะ ...เฮ้ย....!!! จริงหร๋อ
เวลาผ่านไป ลูกผมอายุประมาณ 1 ขวบกว่าๆ เค้าก็หายเป็นจากอาการที่บอก
ผม จากคิดเลิกสูบ ก็เลิกคิดเลย 

สูบบุหรี่ต่อไปเรื่อยๆ  จนแฟนผม ท้องลูก คนที่ 2 ......ซึ่งก็ไม่มีผลอะไร ให้ผมเลิกสูบบุหรี่ เพราะปกติเวลาผมสูบบุหรี่ ก็ไม่เคยสูบไกล้เค้าอยู่แล้ว มีแค่กลิ่นตัวตัวมาเฉยๆ ถึงตรงนี้ ผมก็ยังไม่เริ่ม แล้วจะเลิกทำไม ยังไง...?

และแล้วจุดเริ่มต้นของการเลิกสูบบุหรี่ของผม
ก็มา... ระหว่างที่ผมขับรถไปทำงานผมฟัง FM ( MET 107 ) เค้าพูดถึงเรื่อง ความคิด ทัศนคติ และการกระทำของคนที่จะสำเร็จ อะไรซักอย่างนี่แหละ ผมชอบฟังมากเรื่องแบบนี้
และคำที่เค้าพูด ทำให้ผมคิดจะลองเลิกบุหรี่คือประมาณว่า " ถ้าอยากสำเร็จอะไรก็ตาม ต้องเอาชนะใจตัวเองให้ได้ก่อน " ซึ่งเอาจริงๆ มันไม่เกี่ยวกับเลิกสูบบุหรี่เลย 
แต่...โอ้โห คำนี้ มันติดอยู่ในหัวผมเลย

ผมมองไปที่เรื่อง สูบบุหรี่ผมนี่แหละ ลองดิ 
"กูต้องชนะให้ได้ "

ตอนนั้นที่ตัวผม มีบุหรี่ 2 มวน ซองเก่า กับอีก 1 ซองใหม่ 
ผมบอกตัดเองว่า ผมจะเลิกบุหรี่ ตั้งแต่วันนี้ เดี๋ยวนี้ ตอนนี้ ทันใดนั้น ผมก็เปรี้ยวปาก อยากสูบทันที แต่ผมก็ไม่สูบนะ คุณเชื่อมั้ย ผมเป็นยังไงจากการไม่สูบบุหรี่ในตอนนั้น 
คือ ..
ตาลาย ตามัว มึนๆ งง งง.....
น้ำลายเหนียว เปรี้ยวปาก..... 
รู้สึกว่า เลือดในร่างกาย มันวิ่งพล่าน ....
หงุดหงิด หัวร้อน อะไรก็น่าโมโหไปหมด ..... 

ผมเดา มันน่าจะเป็นเรื่องของ ร่างกายต้องการนิโคติน

คือปกติ เวลาอยากสูบบุหรี่ มันก็มีอาการพวกนี้อยู่แล้ว แต่พอสมองสั่งว่าเราจะเลิก มันเหมือนทวีความรุนแรงขึ้นอีก 
ตอนนั้น ผมถอดใจมากนะ คือเครียดมาก อยากสูบบุหรี่ 555 

ช่วงพีคที่สุดคือ ช่วงหลังกินข้าวทุกมื้อเลย
เครียดสุดๆ ... คือมันต้องสูบ
จริงๆ ควรจะพีคช่วง กินเหล้า แต่ผมเองไม่เน้นกินเหล้าเท่าไหร่ เน้นกินกับอย่างเดียว^^

ผมรอดอาการที่ว่ามาได้ เพราะผม เล่นมือถือ เล่นเกมส์ เล่นกับลูกๆ กิน...กิน นั่งทำงาน ออกจากที่ ที่มีกลิ่นควันบุหรี่ แล้วคาถาประจำใจเลยท่องไว้ ๆ " เดี๋ยวไปสูบ เดี๋ยวไปสูบ เดี๋ยวไปสูบ " 

ผมทำแบบนั้นได้ประมาณ 1 อาทิตย์ ไม่บอกใคร 
ไม่กล้าบอกใคร กลัวหน้าแหก เวลาสูบบุหรี่

วันนึง แฟนผมถามว่า เดี๋ยวนี้ ไม่สูบบุหรี่หร๋อ..?
ผมตอบอย่างเท่ หน้าผมเด้งมาก ฟินๆ .... " หยุดมา เป็นอาทิตย์แล้ว ".......โคตรเท่เลย
คุณเชื่อมั้ยแฟนผม ยิ้ม ....บนใบหน้าที่ งง งง 
ผมรู้ เค้าดีใจมาก เพราะ ตั้งแต่เราคบกันมา จนแต่งงาน 7-8 ปี เวลาผมสูบบุหรี่เค้าชอบบอกว่าเหม็น และหลังจากเค้าท้องลูกคนแรก ก็บอกว่าเหม็นกลิ่นบุหรี่ มากกว่าเดิม แต่เค้าไม่เคยบอกให้ผมเลิกสูบบุหรี่จริงจัง และไม่เคยบังคับให้ผมเลิกสูบบุหรี่เลยนะ 

หลังจากที่แฟนผมรู้ว่าผมจะเลิก แฟนผมถามตลอด เป็นไง ไหวมั้ย กินขนมมั้ย ไปหาอะไรกินกันมั้ย ให้ลูกมากอดบ้าง คือผมรู้ว่าเค้ารู้และหาข้อมูล เรื่องนี้มา
ตั้งแต่ วันแรก ที่หยุด จนถึงช่วง 3 เดือนแรก ผมมีอาการอย่างที่บอก มาตลอดทุกวัน ทุกเวลาที่เคยสูบ สำหรับผมมันหนักมากจริงๆ 
จนบางครั้ง 
ผมตื่นมา เดินไปที่ระเบียงบ้าน แล้วก็ ยื่น งง มาทำอะไร ( ทุกเช้าจะไปสูบตรงนั้น )
ทุกครั้งตอนเช้า เข้าร้านสะดวกซื้อ บางครั้งผมหลุดปากสั่งซื้อบุหรี่ 
หลายครั้ง ที่ผมไปตามสถานที่ต่างๆ และมองหาป้าย สูบบุหรี่ 
หลายครั้ง ขับรถแวะปั๊มแล้วเดินไป หลังห้องน้ำ แล้ว ยืน งง งง มาทำอะไร 

เข้าใจว่า นี่น่าจะเป็น ส่วนของพฤติกรรม คนสูบบุหรี่ ที่ผมติดตัวมาด้วย

แต่ผมก็รอด จาก สถานการณ์นั้นมาได้ 
และหลังจาก 3 เดือนมา ก็ยังมีอาการอยากสูบบุหรี่ มาตลอดนะ แต่ไม่มาก เท่าช่วงแรกๆ
ผ่านไป 1 ปี อาการก็ยังมีเหมือนเดิม แต่ดีขึ้นเยอะ

เรื่องลูก...
ลูกคนที่ 2 ของผมก็คลอด ช่วงประมาณนี้ เค้าไม่มีอาการ เกี่ยวกับระบบทางเดิมหายใจ ภูมิแพ้ หรือใดๆ เหมือนพี่เค้า หรือเป็นเพราะเค้าเกิดมาพร้อมกับตอนที่ผมไม่สูบบุหรี่...?

ถึงตอนนี้เกือบ 2 ปีแล้วครับ ที่ผมหยุดสูบบุหรี่ได้ 

การเลิกสูบบุหรี่ ของผม นอกจากตัวไม่มีกลิ่นบุหรี่ ไม่มีกลิ่นเหม็นตามเสื้อผ้า ไม่เสียสุขภาพ ผมไม่ต้องระแวงที่จะกอดลูกทั้งสอง
ผลพลอยได้อีกอย่าง คือ ผมไม่ต้องจำกัดสิทธิตัวเอง คือผมจะไปไหนก็ได้ อยู่ไหนก็ได้ ไม่ต้องคอยคิด จะมีที่สูบบุหรี่มั้ย จะสูบบุหรี่ยังไง 
อีกอย่าง ผมมีเงินเหลือ( ค่าบุหรี่ 30x60 )ในกระเป๋าทุกเดือน เดือนละ 1,800 บาท นะครับ

ลืมบอก....อีกเรื่องระวังนะ ช่วงเลิกสูบบุหรี่ ผมกินจุกจิก ปากไม่ว่างเลย ผลคือ....น้ำหนักมาเต็มๆ อ้วนเลย

ผม ในฐานะคนที่พูดได้ว่า ผมเลิกบุหรี่ ได้ ( เกือบ 2 ปี )
ผมขอให้กำลังใจ สำหรับท่านไหนที่สูบบุหรี่แล้วอยากเลิกสูบ หรือ ท่านที่กำลังเลิกอยู่นะครับ 
ผมรู้ว่ามันเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าผมทำได้ คุณก็ทำได้ครับ คุณต้องเอาชนะใจคุณได้ 

อีกส่วนสำคัญ สำหรับคนจะเลิกสูบบุหรี่ คือกำลังใจ และความเข้าใจครับ คนข้างกาย คือกำลังใจที่ดี ในการเลิกสูบบุหรี่นะครับ 
แฟนผม เป็นหนึ่งกำลังใจสำคัญ ที่เข้าใจ และรับมือ ผมในตอนนั้นได้ เพราะฉนั้น ผมแนะนำ คนข้างๆคนที่เลิกสูบบุหรี่ อย่าลืม ให้กำลังใจ สอบถาม ชวนทำกิจกรรม หางานให้เค้าทำครับ 

       สุดท้าย สำหรับผม การเลิกสูบบุหรี่ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากแล้ว แต่การที่ผม เอาชนะใจตัวเองได้นี่ซิ มันคือที่สุด ไม่ต้องเชื่อผม ลองทำเองเลยครับ สู้ๆนะครับ

เรียบเรียงโดย : kaijeaw.in.th ขอขอบคุณที่มา : JPPK