เพจดังแจงดราม่า ปมยายไม่มีเงินซื้อมือถือให้หลานเรียนออนไลน์
จากกรณีเรียนออนไลน์ ผู้ปกครองเดือดร้อนไม่มีเงินซื้อมือถือให้เรียน ด้านเพจดังอธิบายแล้ว เรียนได้ 3 ช่องทาง หากบ้านไหนไม่มีกล่องดิจิทัล เตรียมแจก 1.5 ล้านกล่อง ส่วนบ้านไหนไม่มีทั้งมือถือ - ทีวี จะรีบจัดการช่วยเหลือ ให้ดูบ้านเพื่อนชั่วคราวไปก่อน
เมื่อวันที่ 17 พ.ค.63 ชาวเน็ตต่างแชร์และแสดงความคิดเห็น ของผู้ใช้เฟซบุ๊ก Jatupol Boriboon ซึ่งเป็นคนขายโทรศัพท์มือถือ ได้แชร์ภาพของยายและหลานคู่หนึ่งที่พากันมาซื้อมือถือเพื่อนำไปใช้เรียนออนไลน์ ตามนโยบายของรัฐบาล
โดยเล่าว่า ยายพาหลานเดินมาถามว่า "มีโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 2,000 ไหม" เพราะหลานต้องเอาไปใช้เรียนออนไลน์ แต่ยายมีเงินแค่ 2,000 บาท สิ่งที่แนะนำยายได้ดีที่สุดคือ ให้ยายลองไปดูมือถือพร้อมโปรฯ ของค่ายต่าง ๆ ดู แต่ยายก็ต้องจ่ายค่าอินเตอร์เน็ตทุกเดือนอีก ซึ่งส่วนตัวตนมองว่านโยบายเรียนแบบออนไลน์มันดีนะ แต่บางคนที่เขาไม่มีเงินจริง ๆ เขาก็เดือดร้อน
ส่วนใหญ่เด็กประถมยังไม่มีมือถือกัน พอต้องมาเรียนออนไลน์ก็ต้องเดือดร้อนผู้ปกครอง จริงอยู่ว่าเรียนทางโทรทัศน์ได้ แต่ถ้าที่บ้านไม่มีโทรทัศน์ ถ้าเรียนเสร็จแล้วครูสั่งการบ้านแบบออนไลน์จะทำอย่างไร การที่อยากให้เด็กได้เรียนปกติ มันคือสิ่งที่ดี แต่มันจะดีกว่าถ้าผู้ปกครองไม่เดือดร้อนไปกว่านี้
ล่าสุด (17 พฤษภาคม 2563) เฟซบุ๊ก Drama-addict ได้โพสต์ชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลังสอบถามไปยังครูผู้เกี่ยวข้อง ระบุว่า คนเข้าใจกันผิดว่าต้องเรียนผ่านมือถือเท่านั้น ความจริงแล้วสามารถเรียนได้หลายช่องทาง มีทั้งในแอปพลิเคชันมือถือ และโทรทัศน์ที่เชื่อมกล่องดิจิทัลทีวี
โดยสามารถเรียนได้ 3 แหล่ง ซึ่งมี 15 ช่องสัญญาณ ตลอด 24 ชั่วโมง ได้แก่
1. โทรทัศน์ดาวเทียม ระบบ KU-Band จานทึบ ช่อง 186 - 200
2. เว็บไซต์ www.dltv.ac.th
3. บนสมาร์ทโฟน แอปพลิเคชัน DLTV
แอนดรอยด์ : https://play.google.com/store/apps/details…
iOS : https://apps.apple.com/th/app/dltv/id1392940989?l=th
ทั้งนี้ คุณครูจะพิมพ์ใบงานและเตรียมการบ้านให้เด็กทำ โดยดูจาก 3 แหล่งนี้ แล้วพอครบกำหนดเวลา ครูจะไปเก็บใบงานตามบ้านเพื่อเอาไปตรวจ
ส่วนกรณีบ้านไหนเด็กไม่มีมือถือ ให้ดูทางโทรทัศน์ กรณีไม่มีโทรทัศน์ดาวเทียมระบบดังกล่าว หรือไม่มีคอมพิวเตอร์เพื่อต่อเน็ตดูจากเว็บไซต์ ทางกระทรวงศึกษาธิการ ได้ส่งแบบสำรวจไปตามบ้านของเด็กนักเรียน เพื่อสำรวจว่าบ้านไหนไม่มีกล่องรับทีวีดิจิทัล และเครื่องรับโทรทัศน์สำหรับเรียนทางไกล ทางกระทรวงจะจัดให้ แต่ต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง ตอนนี้ให้เด็กบ้านที่ไม่มีทีวีดิจิทัลที่รับช่องนั้นได้ ให้ไปดูบ้านเพื่อนชั่วคราวก่อน
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบดีว่า ต้องมีเด็กที่ครอบครัวยากจน ไม่มีทั้งมือถือและทีวีดิจิทัลให้ดู ดังนั้น เขาจะพยายามจัดหาสื่อที่ใช้เรียนออนไลน์ให้เด็ก ๆ ได้ใช้ ส่วนกล่องดิจิทัลทีวีที่จะแจกให้บ้านของเด็กนักเรียน คาดว่าเตรียมไว้ 1.5 ล้านกล่อง ระหว่างนี้ถ้าติดขัดอะไรให้เด็ก ๆ หรือครอบครัวแจ้งไปที่คุณครู จะได้หาทางแก้ปัญหากันต่อไป เพื่อที่น้อง ๆ จะได้เรียนหนังสือกันต่อ แม้โรงเรียนจะยังปิด
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.in.th ขอขอบคุณที่มา : Drama-addict,Jatupol Boriboon
