มีรถแต่ไม่มีเงินเก็บ กับ ไม่มีรถแต่มีเงินเก็บ คุณจะเลือกอะไร
บางคนผ่อนรถแบบถูๆ ไถๆ ไม่มีเงินเก็บ แต่มีรถขับ เห็นไปเที่ยวกับครอบครัว ก็มีความสุขดี บางคนเก็บเงินรอจนพร้อมจริงๆ แต่ระหว่างเก็บเงินก็ต้องตากแดด ตากฝน ไปทำงานถ้าเป็นพี่ๆ จะเลือกแบบไหนครับ
โดยสมาชิกพันทิปหมายเลข 5755356 ตั้งกระทู้คำถามเล่าว่า คือปกติเราขี่มอเตอร์ไซค์ของพ่อ ไปทำงาน เนื่องด้วยเราทำงานราชการ คนที่ทำงานเขาก็ชอบบอกให้เราไปกู้เงินมาซื้อรถเก๋งขับ เขาบอกราชการมันกู้ง่าย
ซึ่งพี่ที่เขาแนะนำมา เขาก็ทำอย่างนั้น เขาไปกู้ของกรุงไทย เพื่อจะหักรวมกับ กยศ. เขาจะชอบบอกว่าให้เราไปออกรถ เขาให้เหตุผลว่าถ้าไม่ออกรถตอนนี้ แล้วจะออกตอนไหน อีกหน่อยเดี๋ยวก็อายุมาก จะมีอะไรเป็นของตัวเอง ซึ่งตอนนี้เราอายุ 26 ปี เงินเดือนเราประมาณ17,000
โดยปกติเราจะหักฝากออมไว้เดือนละ 8,000 บาท อีกบัญชีหนึ่ง สิ่งที่เราจะถามก็คือ ถ้าในกรณีแบบเราคุณจะเลือกรถ หรือ เลือกเงินเก็บ พี่คนที่เขาออกรถ เงินเดือนเขาประมาณ16000 บาท ผ่อนเดือนละ 8000 บาท เขาอยู่หอพักก็ตกเดือนละ3000 บาท คือแทบจะไม่เหลือเงินเก็บ ซึ่งพอๆ กับที่เราเอาเงินไปฝากในบัญชีไว้เฉยๆ
แต่เขาก็ให้เหตุผลว่ายอมลำบากวันนี้เพื่อมีของ ของตัวเองในวันข้างหน้า อันนี้เราก็เข้าใจนะ แต่ส่วนตัวเรายังไม่พร้อมจะออกรถ เราก็เลยสงสัยว่าเราคิดถูกหรือคิดผิดที่ยังไม่ยอมออกรถ เนื่องจากเราไม่ได้เอารถไปใช้หาเงินเพิ่ม แค่ขี่ไปทำงานและกลับบ้าน ซึ่งพี่คนนั้นเขาก็เอาไว้แค่ขี่ไปทำงานและกลับบ้าน แต่ก็มีที่เขาขี่ไปเที่ยว ซึ่งส่วนตัวเราก็สามารถนั่งรถเมล์ รถมอไซค์ แท็กซี่ รถไฟฟ้าได้ เราเลยมองว่ามันยังไม่จำเป็น เพื่อนๆ มีคำแนะนำไหมคะ ขอบคุณค่ะ
ต่อมาก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมให้คำแนะนำเป็นจำนวนมาก
พร้อมเมื่อไหร่ค่อยซื้อก็ได้ครับ
ขึ้นอยู่กับความจำเป็น
อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับการใช้สอยของแต่ละคน สำหรับคนอยู่กลางเมือง ใกล้รถไฟฟ้า ลักษณะงานไม่ต้องเดินทางบ่อย รถยนต์ส่วนบุคคลจึงไม่จำเป็น ต้องดูความจำเป็น เป็นหลักก่อน แต่ถ้าด้วยสาเหตุ คือ สังคมเขามีกันแบบนี้ถือว่ากลายเป็นภาระและรายจ่ายเสริมโดยไม่จำเป็นควรคิดให้ดีๆ ก่อนตัดสินใจซื้อกันด้วยนะครับ
เรียบเรียงโดย : kaijeaw.in.th ขอขอบคุณที่มา : สมาชิกหมายเลข 5755356
